“ตลท.” จัดโครงการ “SET Social Impact GYM 2024” เพิ่มทักษะผู้ประกอบการ ปี 8

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ผนึก “พันธมิตร” จัดโครงการ “SET Social Impact GYM 2024” ปีที่ 8 มุ่งส่งเสริมศักยภาพ พร้อมพัฒนาทักษะผู้ประกอบการเพื่อสังคม


นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ส่งเสริมให้ภาคธุรกิจดำเนินงานความยั่งยืน โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environmental, Social and Governance: ESG) และพร้อมเป็นแบบอย่างการดำเนินงานตามแนวทาง ESG เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับตลาดทุนไทย โดยหนึ่งในแผนกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนเพื่อสร้างความยั่งยืน คือ การส่งเสริมพัฒนาทักษะการเป็นผู้ประกอบการให้กับผู้ประกอบการเพื่อสังคม (SE) ภายใต้โครงการ SET Social Impact GYM  ซึ่งได้ดำเนินโครงการมาตั้งแต่ปี 2560

โดยการส่งเสริมดังกล่าวร่วมกับ สมาคมบริษัทจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (maiA) ที่เป็นพันธมิตรหลักในการเข้ามาเป็นโค้ชจิตอาสา ให้คำแนะนำทักษะการประกอบธุรกิจ สำหรับการดำเนินโครงการในปีนี้ ยังมีองค์กรพันธมิตรอีก 3 รายมาร่วมเสริมทัพขับเคลื่อนโครงการ ได้แก่ กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ซึ่งจะมาร่วมแลกเปลี่ยนเครือข่ายและองค์ความรู้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ซึ่งจะมาร่วมให้ความรู้การวางแผนเตรียมความพร้อมเพื่อหาแหล่งเงินทุน  และบริษัท PwC ประเทศไทย จะมาร่วมสนับสนุนการให้ความรู้และคำปรึกษาด้านบัญชี และภาษี

ขณะที่ปีนี้มี SE ที่ผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มข้นจำนวน 10 ราย ซึ่งครอบคลุมการสร้างผลลัพธ์ทางสังคม 4 ด้าน ได้แก่ ด้านพัฒนาชุมชนและการเกษตร 3 ราย ด้านสุขภาพ 3 ราย ด้านสิ่งแวดล้อม 3 ราย และ ด้านผู้เปราะบาง 1 ราย โดย SE ส่วนใหญ่ที่ผ่านการคัดเลือกได้ดำเนินธุรกิจมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3-5 ปี มีศักยภาพในระดับที่พร้อมขยายการเติบโตทางธุรกิจ (Growth Stage) แต่ยังขาดทักษะความรู้การประกอบธุรกิจอย่างมืออาชีพและเป็นระบบ

นอกจากนี้ ตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา โครงการ SET Social Impact GYM ได้เสริมศักยภาพผู้ประกอบการเพื่อสังคม (SE) ไปแล้วมากกว่า 80 ราย ทำให้มีแผนกลยุทธ์และทิศทางการทำธุรกิจที่ชัดเจนที่สามารถนำไปดำเนินการต่อได้จริงและขยายธุรกิจได้ทันที อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างโอกาสให้กับ SE ในการเชื่อมต่อการทำงาน (Business Co-Creation) กับภาคเอกชน ในหลากหลายรูปแบบ อาทิ การจ้างงาน, การส่งเสริมสินค้าและบริการ, การสนับสนุนช่องทางการขาย และการเป็นที่ปรึกษาการทำธุรกิจจนนำไปสู่การขยายการสร้างการเปลี่ยนแปลงทางสังคม

โดยการสร้างอาชีพให้กลุ่มผู้เปราะบาง เกษตรกร และชุมชนกว่า 114,000 คน รวมถึงเสริมสร้างโอกาสทางการศึกษากว่า 8,000 คน จัดการปัญหาด้านสุขภาพกว่า 6,000 คน โดยมีผู้ได้รับประโยชน์จากการจัดการและแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมกว่า 110,000 คน

Back to top button