TU ลุยเปิดศูนย์นวัตกรรม “Innovation Hub” ประเทศเนเธอร์แลนด์

TU เปิดศูนย์นวัตกรรม Innovation Hub ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ มุ่งเน้นวิจัยพัฒนาบรรจุภัณฑ์ สำหรับแบรนด์อาหารทะเลกระป๋องของกลุ่มบริษัท


บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU เปิดศูนย์นวัตกรรม Innovation Hub อย่างเป็นทางการ ณ เมืองวาเกนิงเงน ประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อขยายเครือข่ายนวัตกรรมระดับโลกของบริษัทให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งศูนย์นวัตกรรมแห่งใหม่นี้จะมุ่งเน้นไปที่การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ สำหรับแบรนด์อาหารทะเลบรรจุกระป๋องของกลุ่มบริษัท

โดยภายในศูนย์นวัตกรรมแห่งนี้ ประกอบด้วย นักพัฒนาผลิตภัณฑ์ กระบวนการและบรรจุภัณฑ์ นักโภชนาการ นักวิทยาศาสตร์ด้านประสาทสัมผัส และนักพัฒนานวัตกรรมกว่า 40 คน เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ภายใต้ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับไทยยูเนี่ยนและศูนย์นวัตกรรมไทยยูเนี่ยน (Global Innovation Center หรือ GIC) ในกรุงเทพฯ

ทั้งนี้ ไทยยูเนี่ยนได้ลงทุนในศูนย์นวัตกรรมอันล้ำสมัยแห่งนี้เพื่อมุ่งพัฒนานวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดและผู้บริโภคเป็นสำคัญ โดยศูนย์นี้จะดูแลครอบคลุมแบรนด์อาหารทะเลบรรจุกระป๋องทั้งหมดของกลุ่มไทยยูเนี่ยนเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ รสชาติอร่อย ได้คุณค่าทางโภชนาการอย่างยั่งยืน

ด้านนายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TU กล่าวว่า ศูนย์นวัตกรรมแห่งใหม่ที่เนเธอร์แลนด์ นับเป็นการเสริมสร้างศักยภาพด้านนวัตกรรมระดับโลกให้กับไทยยูเนี่ยน Global Innovation Center (GIC) ในประเทศไทยมุ่งเน้นการวิจัยในการใช้ประโยชน์และเพิ่มคุณค่าของวัตถุดิบซึ่งเป็นรากฐานที่สำคัญซึ่งจะสร้างประโยชน์โดยตรงต่อศูนย์นวัตกรรม Innovation Hub ของเราในวาเกนิงเงน เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้อย่างรวดเร็วผ่านความร่วมมือกับแบรนด์ต่างๆ ลูกค้าและผู้บริโภคของเรา การสร้างสรรค์นวัตกรรมควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน SeaChange® 2030 จะสร้างความแตกต่างและเป็นพลังสำคัญให้ผลิตภัณฑ์ของเราสามารถครองใจผู้บริโภคได้

ขณะที่นายแพทริค ทาซิญอง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายนวัตกรรมอาหารทะเลแปรรูปของ TU กล่าวว่า เหตุผลที่เลือกเมืองวาเกนิงเงนเป็นศุนย์นวัตกรรมแห่งใหม่ เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีความเป็นเลิศและมีความพร้อมทางด้านวิทยาศาสตร์อาหารและโภชนาการที่บริษัทตั้งใจที่จะบูรณาการความร่วมมือ ความรู้ และสปิริตของนักสร้างสรรค์นวัตกรรมทั้งจากมหาวิทยาลัยวาเกนิงเงนเพื่อการวิจัยสตาร์ทอัพ และบริษัทต่าง ๆ มาเป็นแรงบันดาลใจในการคิดค้นนวัตกรรมที่ล้ำสมัย เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำอุตสาหกรรมอาหารและโภชนาการจากทะเลระดับโลก

ด้านศาสตราจารย์เอลเลน แคมป์แมน ประธานสาขาวิชาโภชนาการและสุขภาพแห่งมหาวิทยาลัยและการวิจัยวาเกนิงเงน กล่าวว่า มหาวิทยาลัยและการวิจัยวาเกนิงเงน เป็นมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งด้านโภชนาการและวิทยาศาสตร์อาหารของยุโรป ที่สามารถดึงดูดให้บริษัทฯ ชั้นนำด้านอาหารหลายแห่งตัดสินใจมาตั้งศูนย์นวัตกรรมที่นี่ และขอต้อนรับไทยยูเนี่ยน บริษัทผู้ผลิตอาหารทะเลรายใหญ่ของโลกสู่เมืองวาเกนิงเงน โดยเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าด้วยความพร้อมและความตั้งใจของทุกฝ่ายเมื่อผสานความร่วมมือกับไทยยูเนี่ยน จะสามารถสร้างสรรผลงานวิจัยและพัฒนาโภชนาการดีจากท้องทะเลไปด้วยกัน

โดยศูนย์นวัตกรรม Innovation Hub ได้รับการออกแบบเพื่อพัฒนานวัตกรรมให้กับแบรนด์ต่าง ๆ ของไทยยูเนี่ยน ภายในศูนย์นวัตกรรมดังกล่าว ประกอบด้วย สิ่งอำนวยความสะดวกขั้นสูงเพื่อสนับสนุนกระบวนการทำงานตั้งแต่ต้นการวิจัยคิดค้นคอนเซปต์ ตลอดจนนำเสนอสินค้าสู่ตลาด ได้แก่

– จัดตั้งโรงงานต้นแบบ (Pilot plant) โดยจำลองจากโรงงานเต็มรูปแบบของไทยยูเนี่ยน ออกแบบให้มีความยืดหยุ่นในการติดตั้งอุปกรณ์นวัตกรรมใหม่ ๆ ช่วยให้ทีมสามารถออกแบบ ทดลอง และทดสอบนวัตกรรมได้อย่างเต็มที่

– ห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ (Analytical lab) ที่ติดตั้งด้วยเครื่องมือทดสอบทางกายภาพและเคมีที่มีความแม่นยำสูงเพื่อตรวจสอบความปลอดภัยและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ไทยยูเนี่ยน

– ห้องปฏิบัติการออกแบบบรรจุภัณฑ์ (Packaging lab) สำหรับการพัฒนาแนวคิด การสร้างต้นแบบ และการทดสอบวัสดุและฟังก์ชันการทำงาน

– ห้องปฏิบัติการประสาทสัมผัส (Sensory lab) ที่มาพร้อมโซนประสาทสัมผัส สามารถควบคุมแสงสว่างและการระบายอากาศได้ตามปัจจัยที่ต้องการ เพื่อให้ทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ของไทยยูเนี่ยนสามารถประเมินการรับรู้และการตอบสนองของผู้บริโภคต่อผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมไทยยูเนี่ยนได้ดียิ่งขึ้น

– User experience kitchen ไว้ต้อนรับและสร้างประสบการณ์ร่วมระหว่างผู้บริโภค พร้อมสังเกตการณ์ความพึงพอใจต่อผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมนอกจากนี้ ยังมี Co-Creationระหว่างเชฟ ลูกค้า และแบรนด์ เพื่อพัฒนาอาหารต้นแบบร่วมกัน

สำหรับผลงานจากศูนย์นวัตกรรมInnovation Hub ที่เปิดตัวสู่สาธารณะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ได้แก่ นวัตกรรม ECOTWIST® ของแบรนด์ John West ซึ่งเป็นนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ที่ปฏิวัติวงการออกแบบ ครั้งสำคัญในสหราชอาณาจักร โดยสามารถบรรจุปลาทูน่าได้ในปริมาณเท่าเดิมในกระป๋องที่ออกแบบใหม่ให้เบากว่า ลดการใช้เหล็กได้กว่า 400 ตันต่อปี ลดวัตถุดิบส่วนประกอบได้ 1,500 ตัน ลดการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกได้ 65 ตันต่อปี และลดการใช้บรรจุภัณฑ์กระดาษได้ถึง 300 ตันต่อปี

ทั้งนี้ ศูนย์นวัตกรรม Innovation Hub เนเธอร์แลนด์ พร้อมต้อนรับผู้บริโภค นักวิชาการ พันธมิตรทางธุรกิจ และลูกค้า เพื่อร่วมกันสร้างนวัตกรรมอย่างยั่งยืนร่วมกัน

Back to top button