AIS จับมือ CIB เปิดบริการ “แจ้งอุ่นใจ ตัดสายโจร” ยกระดับป้องกันภัยไซเบอร์

AIS จับมือ CIB เปิดบริการ *1185# แจ้งอุ่นใจ ตัดสายโจร หวังยกระดับป้องกันมิจฉาชีพและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ทันทีหลังวางสาย ตั้งเป้า 6 เดือนลดคดีโจรออนไลน์ 30-40%


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ 31 ต.ค. 67 ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. และ นายปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหาร กลุ่มลูกค้าทั่วไป AIS ร่วมกันแถลงข่าวความร่วมมือพร้อมเปิดตัวบริการแจ้งอุ่นใจ ตัดสายโจร ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันของตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) และ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส(AIS)  เพื่อปราบปรามกลุ่มมิจฉาชีพและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมี พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย รองผบช.ก. พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท และผู้แทนจาก AIS ร่วม

พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า วันนี้ภัยไซเบอร์ โดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้สร้างความเดือดร้อน เสียหายให้กับพี่น้องประชาชนเป็นจำนวนมาก โดยตำรวจสอบสวนกลางได้เร่งระดมกวาดล้างกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพื่อตัดเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างคนร้ายกับประชาชน ได้แก่ สัญญาณโทรศัพท์, สัญญาณอินเทอร์เน็ต, ซิมผี บัญชีม้า, SMS และ Social Media Platform โดยทำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้ให้บริการเครือข่าย โดยเฉพาะ AIS ที่ร่วมกันติดตามมิจฉาชีพผ่านระบบ Tracking & Monitoring รวมไปถึงการเปิดช่องทางให้ลูกค้า AIS สามารถแจ้งเบาะแสเบอร์โทรต้องสงสัย ผ่าน AIS Spam Report Center นำไปสู่การจับกุมและดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดได้ในหลายกรณี อย่างไรก็ตามจากสถิติในรอบปีที่ผ่านมาพบว่ามีอาชญากรรมทางไซเบอร์ 3 แสนคดี ความเสียหายมากกว่า 3.4 แสนล้านบาท หากนับคอลเซ็นเตอร์ พบว่ามี 2 หมื่นคดี 3-4 พันล้านบาท พร้อมกันนี้จะตั้งเป้าลดคดีไซเบอร์ 30-40% ภายในระยะเวลา 6 เดือน

“โดยครั้งนี้ได้ยกระดับความร่วมมือไปอีกขั้นผ่านบริการ *1185# แจ้งอุ่นใจ ตัดสายโจร ที่นอกจากจะอำนวยความสะดวกให้ประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสของมิจฉาชีพได้ง่ายๆ ทันทีหลังจากวางสายแล้ว ยังถือว่าเป็นประโยชน์กับการทำงานของตำรวจเป็นอย่างมาก เพราะทำให้เราเห็นข้อมูลความผิดปกติจากการใช้งานของเบอร์ต้องสงสัย ทั้งรูปแบบการใช้งาน ประวัติการติดต่อกับเหยื่อผู้เสียหาย หรือแม้แต่การใช้งานบนอุปกรณ์ที่ผิดกฎหมาย นับเป็นการแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุดทำให้เจ้าหน้าที่สามารถติดตามผู้กระทำความผิดและแก๊งคอลเซ็นเตอร์มาดำเนินคดีทางกฎหมายได้เร็วยิ่งยิ่งขึ้น” ผบช.ก.กล่าว

ด้าน นายปรัธนา กล่าวว่า เราให้ความสำคัญกับการดูแลลูกค้าให้ใช้บริการได้อย่างมั่นใจบนเครือข่ายปลอดภัยของ AIS จึงเดินหน้าทำงานอย่างต่อเนื่องใน 3 ด้าน คือ 1.สนับสนุนให้ความร่วมมือกับตำรวจ และหน่วยงานภาครัฐต่างๆ ในการติดตาม ตรวจสอบปิดกั้น วางมาตรการจดทะเบียนแสดงตนเลขหมายอย่างโปร่งใส 2. พัฒนาเครื่องมือด้านเทคโนโลยีที่จะช่วยให้ลูกค้าและประชาชนใช้ปกป้องการใช้งาน และแจ้งเบาะแสได้ด้วยตนเองอย่าง AIS Spam Report Center 3.การสร้างทักษะการใช้งานดิจิทัลในโครงการ อุ่นใจไซเบอร์ที่จะช่วยให้รู้เท่าทันภัยไซเบอร์และมิจฉาชีพได้ ซึ่งทั้ง 3 ส่วนนี้ได้บูรณาการการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนอย่างเต็มที่

“โดยวันนี้ AIS ได้ร่วมกับ ตำรวจสอบสวนกลางและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำงานเชิงรุก ไปอีกขั้น เปิดตัว บริการ *1185# แจ้งอุ่นใจ ตัดสายโจร โดยพัฒนาระบบอัจฉริยะบนเครือข่ายที่สามารถ Report เบอร์ที่รับสายล่าสุดเพียงกด *1185# โทรออกภายใน 5 นาที ระบบก็จะไปดึงเบอร์มิจฉาชีพหรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ล่าสุดที่ลูกค้ารับสายแบบอัตโนมัติโดยไม่จำเป็นต้องเสียเวลาจำเบอร์ที่โทรเข้ามา จากนั้นภายใน 48 ชั่วโมง หากพบว่ารูปแบบการโทรของเบอร์เหล่านั้นมีความผิดปกติที่บ่งชี้ได้ว่าเบอร์ที่ลูกค้าแจ้งมาอาจเป็นมิจฉาชีพจริง AIS จะทำการส่งต่อข้อมูลไปยัง ตำรวจสอบสวนกลางพร้อมกับทำงานอย่างใกล้ชิด กับตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อตรวจสอบและดำเนินการบล็อกเบอร์ดังกล่าวเพื่อไม่ให้ไปก่อความเสียหายเพิ่มขึ้นรวมถึงดำเนินการทางกฎหมายในการติดตามจับกุมเอาผิดกับกลุ่มมิจฉาชีพอย่างเด็ดขาด โดยบริการนี้จะสามารถ Report เบอร์ได้ทุกประเภท ทั้งเบอร์ 02, เบอร์มือถือจากทุกเครือข่าย, เบอร์จากต่างประเทศ, เบอร์จาก VoIP แบบไม่จำกัดจำนวนครั้งในการ Report” นายปรัธนา กล่าว

นายปรัธนา กล่าวย้ำในตอนท้ายว่า “แม้จะมีระบบการแจ้ง Report ที่มีประสิทธิภาพ แต่การทำงานด้านอื่นๆ ก็ยังต้องมุ่งเน้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง AIS ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะสนับสนุนการทำงานของตำรวจจสอบสวนกลาง และหน่วยงานภาครัฐอื่นๆ เพื่อแก้ปัญหาไปที่ต้นตอ ติดตามจับกุมผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายขั้นสูงสุดตัดวงจรอุบาทว์จากมิจฉาชีพ จากทุกช่องทางอย่างดีที่สุดต่อไป นอกจากนี้ทาง AIS ได้ตอกย้ำการให้ความสำคัญกับการดูแลลูกค้าให้ใช้งานได้อย่างปลอดภัยด้วย 5GSIM (5G SUCI SIM) ทั้งในรูปแบบ SIM Card และ eSIM แล้ววันนี้โดยซิมรุ่นใหม่ของ AIS มีการยกระดับความปลอดภัยด้วยการเข้ารหัส-หมายเลขรหัสระบุตัวผู้ใช้บริการ (IMSI Encryption) ทำให้ลูกค้าสามารถใช้งานบนเครือข่าย AIS ได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้น

Back to top button