Synology ชูโซลูชัน ระบบบริหารข้อมูล “กล้องวงจรปิด” บุกตลาดไทยรับดีมานด์พุ่ง

Synology ชูโซลูชัน ระบบบริหารจัดการเฝ้าระวังสำหรับ “กล้องวงจรปิด” พร้อมสำรองข้อมูลครบวงจร บุกตลาดไทย หลังแนวโน้มดีมานด์ตลาดโตต่อเนื่อง


นายรหัท บุญตันจีน ผู้จัดการฝ่ายขายประจำประเทศไทยของ บริษัท ซินโนโลจี้ จำกัด (Synology) เปิดเผยว่า องค์กรในประเทศไทยในทุกขนาด ตั้งแต่ระดับเล็กไปจนถึงระบบองค์กรขนาดใหญ่ กำลังเผชิญกับปัญหาการบริหารจัดการและการจัดเก็บข้อมูลจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งในองค์กร ใน 3 ด้าน ได้แก่

1.การบริหารจัดการกล้องวงจรปิด IP Camera ยุ่งยาก เนื่องจากมีการติดตั้งกล้องหลายรุ่นและหลายยี่ห้อ ทำให้ต้องควบคุมจากหลายแอปพลิเคชัน ไม่สามารถบริหารจัดการได้แบบเรียลไทม์

2.การเข้าถึงข้อมูลกล้องวงจรปิดยากในองค์กรที่มีสาขากระจายอยู่หลายแห่ง การตรวจสอบกล้องวงจรปิดจำเป็นต้องเดินทางไปยังสาขาที่ต้องการค้นหาข้อมูล ซึ่งทำให้การตอบสนองต่อเหตุการณ์ฉุกเฉินเป็นไปได้ยาก

3.ความต้องการจัดเก็บข้อมูลวีดีโอเพิ่มมากขึ้นอุตสาหกรรมหลายแห่งต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เข้มงวดเกี่ยวกับการจัดเก็บข้อมูลจากกล้องวงจรปิด เช่น การจัดเก็บไฟล์วิดีโอให้สอดคล้องกับมาตรฐาน ISO ซึ่งกำหนดระยะเวลาการจัดเก็บไฟล์วีดีโอไว้นานกว่า 3 ปีในบางธุรกิจ ขณะเดียวกันพื้นที่จัดเก็บข้อมูลก็ยังมีข้อจำกัดและมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้นตามปริมาณข้อมูลที่เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ เพื่อรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ Synology ได้พัฒนา โซลูชันระบบบริหารจัดการเฝ้าระวังและเตือนภัยครบวงจร (Surveillance Station )ซึ่งเป็นการนำจุดแข็งด้านการจัดเก็บและปกป้องข้อมูลบน NAS ของบริษัทมาต่อยอดในการบริหารจัดการกล้องวงจรปิดแบบรวมศูนย์ โซลูชันนี้สามารถควบคุมกล้องจากทุกตัวและทุกสาขาของลูกค้าในที่เดียว โดยยังสามารถเพิ่มการจัดเก็บข้อมูลภาพวีดีโอได้อย่างไม่จำกัด ตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรไทยในการจัดเก็บข้อมูลเป็นระยะเวลานานและง่ายต่อการค้นหาวีดีโอย้อนหลัง มีความปลอดภัยในการรักษาข้อมูลสูงตามมาตรฐานของ Synology รวมถึงมาตรฐานความปลอดภัย NDAA/TAA ของอเมริกา

นายรหัทกล่าวว่า โซลูชันระบบบริหารจัดการเฝ้าระวังนี้ออกแบบให้สามารถเลือกใช้งานได้ 2 รูปแบบ ได้แก่แบบแรก คือ การติดตั้งระบบ NAS ของบริษัทเพื่อรวมศูนย์กล้องวงจรปิด IP Camera ซึ่งสามารถรองรับกล้องวงจรปิดในตลาดได้ถึง 170 ยี่ห้อ จำนวนกว่า 8,700 รุ่น อีกทั้งยังรองรับการใช้งานร่วมกับ AI ต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมี NAS ซีรี่ส์ พิเศษที่สามารถเปลี่ยนการใช้งานกล้องวงจรปิดธรรมดา ให้กลายเป็นกล้อง AI ได้โดยมีฟีเจอร์ AI ช่วยในการตรวจจับบุคคล ยานพาหนะ ป้ายทะเบียน และการปิดบังใบหน้า การตรวจจับการบุกรุก เป็นต้น

แบบที่สองคือ การติดตั้งระบบ NAS พร้อมกล้องวงจรปิดของ Synology AI Camera ที่มาพร้อมกับความสามารถในการตรวจจับบุคคล ยานพาหะนะ การป้องกันการบุกรุก และ instant search ที่สามารถใช้ AI  ช่วยในการค้นหาความผิดปกติในไฟล์วีดีโอเป็นไปอย่างรวดเร็ว เช่น กรณีเครื่องเพชรในร้านหาย สามารถทำเครื่องหมายเพื่อค้นหาช่วงเวลาที่เครื่องเพชรหายได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ โซลูชันนี้ยังสามารถเชื่อมต่อ    กับโดรน ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถดูภาพสดจากกล้องของโดรนได้แบบเรียลไทม์ พร้อมกับดูแผนที่เพื่อบอกพิกัดของโดรนและจัดเก็บไฟล์ภาพวีดีโอจากโดรนได้อีกด้วย

นายรหัท ยังได้เปิดเผยว่า ความต้องการในการจัดการและแก้ไขปัญหาการจัดเก็บข้อมูลในประเทศไทยกำลังเติบโตและสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกับทั่วโลก โดยการสำรองข้อมูล (Backup) ข้อมูลไม่ได้เป็นเพียงทางเลือกอีกต่อไป แต่กลายเป็น “ทางรอด” ในโลกยุคที่ข้อมูลสำคัญต่อการวางกลยุทธ์องค์กร ด้วยเหตุนี้ Synology จึงมุ่งมั่นในการพัฒนาโซลูชันที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดในประเทศไทย พร้อมกับช่วยองค์กรในการจัดการและเก็บข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพในยุคที่ข้อมูลมีบทบาทสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจ

ทั้งนี้ การเติบโตของข้อมูลในยุคดิจิทัลกำลังเพิ่มความต้องการในการสำรองข้อมูลอย่างรวดเร็ว รายงานจาก Allied Market Research และ ResearchAndMarkets คาดการณ์ว่าตลาดการสำรองข้อมูลและการกู้คืนจะเติบโต เป็น 17 พันล้านดอลลาร์ในปี 2030 โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ประมาณ 7.5-9.8%

นอกจากนี้ ยังมีแนวโน้มที่ข้อมูลจากกล้องวงจรปิดจะสร้างข้อมูลมากถึง 5,600 เพตะไบต์ต่อวันภายในปี 2025 ซึ่งส่งผลให้การจัดเก็บข้อมูลกลายเป็นสิ่งจำเป็นมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการใช้งานกล้องความละเอียดสูงและเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น Edge Computing และ Cloud Storage และIDC ยังได้คาดการณ์ว่าปริมาณข้อมูลจากโดรนจะเพิ่มขึ้น 30% ต่อปีจนถึงปี 2026 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการนำข้อมูลไปใช้ในระบบ AI ในภาคธุรกิจเพื่อพัฒนากระบวนการตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูลให้ดียิ่งขึ้น

Back to top button