BTG คว้า 2 รางวัล บนเวทีสากล “FMCG Asia Awards 2024”
BTG โชว์ศักยภาพคว้ารางวัล Health & Wellness Initiative of the Year – Thailand และรางวัล Consumer Goods of the Year (Ready-to-eat Meals) จากเวทีระดับสากล FMCG Asia Awards 2024 ที่ประเทศสิงคโปร์ ตอกย้ำแบรนด์ผู้นำอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน
ดร.โอลิเวอร์ ก็อตชัลล์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจอาหาร บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ BTG เปิดเผยว่า จากความมุ่งมั่นส่งมอบผลิตภัณฑ์อาหารที่มีคุณภาพและมีความปลอดภัยขยายสู่ตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศสิงคโปร์ บริษัทฯ ได้รับรางวัลจากเวทีระดับสากล FMCG Asia Awards 2024 ที่ ประเทศสิงคโปร์ ด้วยกัน 2 รางวัลใหญ่ภายใต้ 2 แบรนด์ ได้แก่ “S-Pure” แบรนด์ผู้นำผลิตภัณฑ์อาหารระดับซุปเปอร์พรีเมียม และแบรนด์ “Betagro” ตอกย้ำการเป็นบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค (Fast-Moving Consumer Goods: FMCG) ที่มีความโดดเด่นในด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารที่เป็นเลิศด้านคุณภาพและความปลอดภัยในระดับภูมิภาคเอเชีย
ทั้งนี้แบรนด์ “S-Pure” คว้ารางวัลอันทรงเกียรติ Health & Wellness Initiative of the Year – Thailand ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เนื้อหมู ไก่ ไข่ และอาหารพร้อมทาน สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการส่งมอบอาหารที่มีคุณภาพและความปลอดภัยสูงสุดที่ผ่านกระบวนการเลี้ยงแบบธรรมชาติ 100% (100% Natural Pure Product) และเป็นอาหารฉลากสะอาด (Clean Label) ที่ปราศจากการแต่งเติม ทั้งไนเตรต และไนไตรท์ ไม่แต่งสี หรือกลิ่นสังเคราะห์ และปราศจากสารกันเสีย ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่รักสุขภาพ ส่วนแบรนด์ Betagro ผลิตภัณฑ์อกไก่พร้อมทาน ได้รับรางวัล Consumer Goods of the Year (Ready-to-eat Meals) – Singapore โดยเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นสินค้าที่ผู้บริโภคเลือกซื้อและมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
“ความสำเร็จของบริษัทฯ ครั้งนื้ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเบทาโกรในการมุ่งพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์อาหารคุณภาพทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะกลยุทธ์การขยายตลาดในประเทศสิงคโปร์ ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทานที่มีความแตกต่าง อร่อย สะดวก และดีต่อสุขภาพ ตรงกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค โดยจำหน่ายผ่านช่องทางร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven จึงได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคในประเทศสิงคโปร์เป็นอย่างดี ตอกย้ำการเป็นบริษัทอาหารครบวงจรชั้นนำของไทยที่มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพชีวิต ด้วยอาหารที่ดีกว่า เพื่อชีวิตที่ยั่งยืนสำหรับทุกคน” ดร.โอลิเวอร์ กล่าวทิ้งท้าย