
BTS คว้ารางวัล “TOP 1%” ดัชนียั่งยืน S&P 2025 สะท้อนมาตรฐานระดับโลก
BTS คว้ารางวัล “TOP 1%” ดัชนีประเมินความยั่งยืนองค์กรระดับโลก ด้านธุรกิจคมนาคมจากรายงาน S&P Sustainability Yearbook ประจำปี 2025
บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS เปิดเผยว่า บริษัทได้ตอกย้ำความมุ่งมั่นการเป็นผู้นำด้านความยั่งยืน โดยได้รับรางวัล Top 1% และประกาศให้เป็นบริษัทด้านธุรกิจคมนาคมที่มีความยั่งยืนเป็นอันดับ 1 ของโลก จาก S&P Global Corporate Sustainability Assessment ซึ่งเป็นการประเมินความยั่งยืนขององค์กรระดับโลก ในรายงาน S&P Sustainability Yearbook ประจำปี 2025 เป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน โดยถือเป็นบริษัทในกลุ่มผู้นำ 1 % แรกของกลุ่มอุตสาหกรรมคมนาคม และโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม โดยประกาศในรายงาน S&P Global Sustainability Yearbook ประจำปี 2025
โดยรายงาน Sustainability Yearbook ประจำปี 2025 จัดทำโดย S&P Global เป็นการประเมินผลการดำเนินงานตามกรอบการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืนในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) โดยมีการประเมินกว่า 7,690 บริษัท จาก 62 อุตสาหกรรมทั่วโลก
สำหรับเกณฑ์ในการพิจารณาเพื่อประกาศรายชื่อบริษัทในรายงาน Sustainability Yearbook บริษัทต่างๆ จะต้องได้รับคะแนนประเมิน S&P Corporate Sustainability Assessment (CSA) อยู่ในกลุ่ม 15% แรกของกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน และอยู่ในกลุ่ม 30% แรกของผู้นำในกลุ่มอุตสาหกรรม โดยในปีนี้มีเพียง 65 องค์กรทั่วโลกที่ติดอันดับ Top 1%จากบริษัทกว่า 780 แห่งที่ได้รับการประกาศรายชื่อด้านความยั่งยืนในรายงาน Sustainability Yearbook ประจำปี 2025 มีบริษัทจากประเทศไทยจำนวน 46 บริษัท
ทั้งนี้ บีทีเอส กรุ๊ปฯ ได้รับคะแนนการประเมินด้าน ESG เป็นอันดับ 1 จากจำนวน 28 บริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมคมนาคม และโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมความสําเร็จจากการได้รับประกาศในรายงานของ S&P Global Sustainability Yearbook ประจําปี 2025 ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนในระดับโลกของบีทีเอส กรุ๊ปฯ และสะท้อนความมุ่งมั่นในการดำเนินงาน ภายใต้กรอบการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน ที่รักษาความมุ่งมั่นในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ควบคู่กับการดำเนินธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ 3M : MOVE, MIX และ MATCH
อีกทั้ง เชื่อว่า ความร่วมมือกับพันธมิตร ในอุตสาหกรรมจะเป็นแรงผลักดัน ให้เกิดการขับเคลื่อนเพื่อการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น รวมถึงช่วยยกระดับการดำเนินงาน ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อความยั่งยืนของประเทศต่อไป