WHA:มั่นใจในการฟื้นตัวของ FDIแนะนำถือราคาเป้าหมาย 3.4 บาท
WHA จากความชัดเจนทางการเมือง และการลงทุนภาครัฐหลังการลงประชาติ ทำให้นักลงทุนสถาบันภายในประเทศต้องการรู้แนวโน้มการฟื้นตัวของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือ FDI จากผู้บริหารของ WHA ซึ่ง WHA มีความมั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัว และมั่นใจในแผนการชำระหนี้ และการดำเนินงานที่ดีขึ้น นับจากการทำประชามติราคาของ WHA เพิ่มขึ้นมากกว่า 15%
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (29 ส.ค.) ว่า บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA จากความชัดเจนทางการเมือง และการลงทุนภาครัฐหลังการลงประชาติ ทำให้นักลงทุนสถาบันภายในประเทศต้องการรู้แนวโน้มการฟื้นตัวของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือ FDI จากผู้บริหารของ WHA ซึ่ง WHA มีความมั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัว และมั่นใจในแผนการชำระหนี้ และการดำเนินงานที่ดีขึ้น นับจากการทำประชามติราคาของ WHA เพิ่มขึ้นมากกว่า 15%
ในปี 58 WHA มียอดขายที่ดิน 1 พันไร่ และคาดว่ายอดจองในปีนี้จะคงที่ เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ล่าสุดได้ปรับเป้าเพิ่มขึ้นเป็น 1.1 พันไร่ หลังจากที่มียอดจองไปแล้ว 351 ไร่ในช่วง 1H16 โดย WHA มองว่ามีบริษัทด้านปิโตรเคมี, ยานยนต์ และแปรรูปอาหาร โดยที่มีกว่า 300 ไร่อยู่ระหว่างการเจรจา และ WHA มีแผนที่จะตั้งศูนย์ดิจิตอลในปีนี้ เพื่อให้บริการด้านข้อมูล และตั้งเป้าสัดส่วนรายได้ 18% ภายในปี 2020
WHA มีแผนที่จะขายสินทรัพย์มูลค่า 6.5 พันล้านบาท ให้กับ H-REIT ในช่วง 3Q16 และจะขายสินทรัพย์ 4 พันล้านบาท ให้กับ WHART โดยการจดทะเบียนกอง H-REIT เลื่อนมาจากปี 2015 เนื่องจากปัญหาด้านกฏหมาย และหลังการนำ HEMRAJ ออกจากตลาดทำให้ WHA แก้ปัญหาด้านการขายสินทรัพย์เข้า H-REIT ได้ และคาดว่าจะทำให้ D/E ลดลงเป็น 1.89 เท่าใน 4Q16 จากเดิมที่ 2.54 เท่า และด้านการจดทะเบียน WHAUP ในปีหน้าจะช่วยหนุนการใช้ประโยชน์จากหนี้สิน และ Tax Shield จากการลงทุน
WHA มีแผนที่จะลงทุนทำนิคมอุตสาหกรรมที่เวียดนาม โดยผ่านบริษัทหุ้นส่วนที่ WHA ถือหุ้น 80% อยู่ที่ทางตอนใต้ของ Hanoi ที่เมือง Nam Can และ Tho Loc โดยจะเน้นไปที่ธุรกิจส่งออกเป็นหลัก และเน้นผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และชิ้นส่วนสมาร์ทโฟน
มูลค่าที่เหมาะสม 3.40 บาท ได้รวมโรงงานและคลังสินค้า รวมถึงการถือหุ้น 15% ใน WHAPF, WHART, HPF และการถือหุ้นใน HEMRAJ มีความเสี่ยงในเชิงลบคือ 1) การขายสินทรัพย์ที่น้อยกว่าคาด 2) ผลประกอบการที่ลดลง ความเสี่ยงในเชิงบวก ได้แก่ 1) การชำระหนี้ในอนาคต 2) ธุรกิจของ HEMRAJ ที่ฟื้นตัว 3) การดำเนินงานที่ดีขึ้น