SPA:ส่องครึ่งหลังปีนี้แข็งแกร่งต่อเนื่องอัพเป้ารายได้โต 40% แนะถือ 13.1 บ.
SPA:ส่องครึ่งหลังปีนี้แข็งแกร่งต่อเนื่อง เพิ่มเป้าหมายการเติบโตของรายได้เป็น 40% ซึ่งสูงกว่าประมารการของเราเล็กน้อยที่ 36%แนะถือเป้า 13.1 บ.
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (31 ส.ค.) ว่า บริษัท สยามเวลเนสกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ SPA หลังผลประกอบการในครึ่งปีแรกเป็นที่น่าพอใจทำให้ผู้บริหารเพิ่มเป้าหมายการเติบโตของรายได้เป็น 40% ซึ่งสูงกว่าประมารการของเราเล็กน้อยที่ 36%
ขณะที่รายได้ในครึ่งปีแรกคิดเป็น 47% ของประมาณการ รายได้ในส่วนของ Spa Products จะเริ่มมีบทบาทมากขึ้นหลังจากได้รับคำสั่งซื้อ Biglot ให้แก่โรงแรมในเครือ Grande Centre Point และได้รับสิทธิประโยชน์ Vat Refund กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ซื้อสินค้าตั้งแต่ 2,000 บาทขึ้นไป
จากเหตุระเบิดในวันที่ 12ส.ค.16 ที่ผ่านมาในจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางภาคใต้ โดยมีสาขาใกล้เคียงจำนวน 3 สาขาได้แก่ Let’s Relax สาขา หัวหิน, ป่าตองสาย 2 และป่าตองสาย 3 ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อยอดนักท่องเที่ยวและรายได้ของ SPA อย่างมีนัยสำคัญ อ้างอิงจากจำนวนลูกค้าที่จองขอยกเลิกการเข้ามาใช้บริการเพียง 3 ราย เทียบกับเหตุการณ์ระเบิดที่ราชประสงค์ในวันที่ 17ส.ค.15 ที่ส่งผลกระทบนาน 2 สัปดาห์และคิดเป็นรายได้ราว 5-10% เนื่องจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเสียชีวิต
บริษัทจะเปิดตัว Let’s Relax Spa & Onsen สาขาแรกในวันที่ 15 พ.ย.59นี้ ซึ่งจะให้บริการนวดแผนไทยควบคู่ไปกับบ่อน้ำร้อนน้ำเย็นแบบออนเซ็นของญี่ปุ่นภายในโรงแรม Grande Centre Point ทองหล่อด้วยพื้นที่กว่า 1,800 ตรม. ซึ่งจะเน้นลูกค้าชาวญี่ปุ่นที่พักอาศัยอยู่ในโรงแรมและสถานที่ใกล้เคียง โดยงบลงทุนแบ่งเป็นส่วนของสปาราว 15 ล้านบาทและส่วนของออนเซ็นที่ราว 60 ล้านบาท ซึ่งคาดจะได้รับการช่วยเหลือจากลูกค้าโรงแรมกว่า 400 ห้องพักในการทำการตลาดร่วมกันตั้งแต่ให้บริการและในระยะถัดไป
ณ สิ้นไตรมาส 2/59มีสาขาทั้งหมด 25 สาขา แบ่งเป็นสาขาในประเทศ 24 สาขาและต่างประเทศ 1 สาขา โดยในครึ่งปีหลัง จะได้รับแรงหนุนจาก 1)การเปิดสาขาใหม่อีก 7 สาขา ซึ่งแบ่งเป็น Let’s Relax 4 สาขาและ Baan Suan Massage 3 สาขา 2)การปรับราคาการให้บริการขึ้นของคอร์สนวดแผนไทย 1 ชั่วโมงของ Let’s Relax ที่เริมตั้งแต่ต้น 3Q16 และ คอร์สนวดแผนไทย 2 ชั่วโมงของ Baan Suan Massage ในไตรมาส 4/59 3)ได้จ่ายค่าใช้จ่ายพิเศษที่กดดันอัตรากำไรขั้นต้นไปแล้วในไตรมาส 2/59 ทำให้ในไตรมาส 3/59 จะเห็นผลของการขยายสาขาใหม่ได้เต็มที่ 4)เข้าสู่ช่วง High Season ของนักท่องเที่ยว ทำให้เราคาดผลประกอบการจะทำ New High ต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อย 3 ไตรมาส ภายใต้สถานการณ์ความสงบเรียบร้อยในประเทศ
คงคำแนะนำ “ถือ” ด้วยราคาเป้าหมายปี 60 ที่ 13.1บาท อิง DCF (WACC 8.1%, TG 5%) แม้ภาพผลการดำเนินงานจะแข็งแกร่งต่อเนื่องถึงไตรมาส 1/59 ที่เป็นช่วง High Season ของธุรกิจ แต่ราคาหุ้นที่ปรับขึ้นสูงถึง 35% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาและ Outperform SET กว่า 26% ทำให้ปัจจุบันมี Upside ต่อราคาเป้าหมายจำกัดเพียง 7% จึงรอความชัดเจนของเส้นทางการเติบโตในต่างประเทศจากทั้งการขยายสาขา Franchise ในประเทศจีนและรูปแบบการลงทุนในกลุ่มประเทศ CLMV ที่มากกว่านี้ ซึ่งจะเป็น Upside Risk ต่อประมาณการได้ ความเสี่ยง: การบริหารบุคลากร, ความอ่อนไหวต่อความไม่สงบในประเทศ, โรคระบาด