ASEFA:ส่องกำไร Q3/59 โตโดดเด่นแนะนำ”ซื้อ”ราคาเป้าหมาย 8.6 บาท
ASEFA คาดจะประกาศผลการดำเนินงานช่วงไตรมาส 3/59 เติบโตโดดเด่นและมีลุ้นทำ new high ที่ประมาณ 70 ล้านบาท (+14.7% เทียบไตรมาสก่อนหน้า, + 2.9% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) เนื่องจากที่ผ่านมาช่วงไตรมาส 3 และ ไตรมาส 4 เป็นช่วงไฮซีซั่นของบริษัทแนะนำ"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 8.6 บาท
บล.เคทีบี ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (23 ก.ย.) ว่าบริษัท อาซีฟา จำกัด (มหาชน) หรือ ASEFA ดำเนินธุรกิจหลักด้านการผลิตและจำหน่ายสวิตช์บอร์ดไฟฟ้า คิดเป็นสัดส่วนรายได้ที่ประมาณ 72.5% สวิตช์บอร์ดเป็น เป็นตัวจ่าย, กระจาย, ตัดต่อ, ควบคุม, และ ป้องกันการลัดวงจรณ์ของไฟฟ้า จะเรียกได้ว่า “ที่ไหนมีไฟฟ้า ที่นั่นต้องมีสวิตช์บอร์ดไฟฟ้า”
สวิตช์บอร์ด ASEFA เป็นขนาดเล็ก-กลาง เหมาะสำหรับ โรงงาน, คอนโดฯ, ห้างฯ, โรงแรม, และ สถานีรถไฟฟ้า เป็นต้น โดยมีลูกค้าประจำหลายรายที่เป็นที่รู้จักในวงกว้างเช่น CP, Central, The Mall, BigC, Centara, AIS, DTAC, TRUE เป็นต้น
คาด ASEFA จะประกาศผลการดำเนินงานช่วงไตรมาส 3/59 เติบโตโดดเด่นและมีลุ้นทำ new high ที่ประมาณ 70 ล้านบาท (+14.7% เทียบไตรมาสก่อนหน้า, + 2.9% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) เนื่องจากที่ผ่านมาช่วงไตรมาส 3 และ ไตรมาส 4 เป็นช่วงไฮซีซั่นของบริษัท
อีกทั้ง backlog ของบริษัทยอยู่ในเกณฑ์ที่สูงกว่าอดีต (ณ สิ้นเดือน ส.ค. 2016 อยู่ที่ 1,806) เราคาดอัตรากำไรขั้นต้นใกล้เคียงกับช่วง 1Q16,2Q16 ที่ระดับประมาณ 24% นอกจากนี้เรายังประเมิน SG&A to sales ต่ำกว่าไตรมาส 2 ที่ 13.0% (2Q16 อยู่ที่ 13.6% )
เนื่องจากบริษัทมีการตั้ง provision ประมาณ 10 ล้านบาทในช่วงที่ผ่านมา ด้วยมุมมองครึ่งปีหลังที่เติบโตโดดเด่นเราจึงคาดกำไรสุทธิปี 59 เติบโตโดดเด่นตามลำดับ ที่ 266 ล้านบาท (+28.7% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) และเติบโตต่อเนื่องในปี 2017 ที่ 300 ล้านบาท (+12.6% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) จากแรงหนุนงานภาครัฐอาทิ รถไฟฟ้า, สายไฟลงดิน, และ สุวรรณภูมิเฟส 2
ไฮไลท์การลงทุนในปีนี้คงไม่พ้นในเรื่องของการขยายหน้าร้าน 10 แห่งทั่วประเทศด้วยงบลงทุนประมาณ 10 ล้านบาทเพื่อขยายช่องทางการจัดจำหน่ายและกระตุ้นยอดขาย โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จบางส่วนในช่วงสิ้นปีนี้ นอกจากนี้เรายังเชื่อว่าบริษัทจะสามารถคงการเติบโตที่ประมาณ 15% ต่อปีตามที่ผู้บริหารตั้งเป้าไว้ได้
เนื่องจากมีงานภาครัฐกำลังจะออกประมูลจำนวนมาก โดยเราคาดว่างานภาครัฐเฉพาะส่วนงานสวิตช์บอร์ดไฟฟ้ามีมูลค่าสูงที่ 3,650 ล้านบาท เราคาดบริษัทจะรับรู้รายได้จากโครงการที่กล่าวมาเป็นจำนวนมากในช่วงประมาณปี 2019-2020 เนื่องจากงานติดตั้งสวิตช์บอร์ด
ด้วยมุมมองในเชิงบวกต่อการดำเนินงานทั้งระยะสั้นและระยะยาว เราจึงมองว่า ASEFA เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่มีความน่าสนใจ อีกทั้งบริษัทยังมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง D/E ratio ต่ำที่เพียง 0.2 เท่า ส่งผลให้บริษัทมีภาระการจ่ายดอกเบี้ยที่ต่ำลง ประเมินราคาเหมาะสมที่ 8.6 บาท ด้วย PER 15.7 เท่า เทียบเป็น PEG 1 เท่า จากกำไรในช่วง 4 ปีข้างหน้าแนะนำ “ซื้อ”