SAMART:แนวโน้ม 2H59 ฟื้นตัวแนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 16.7 บ.
SAMART ทางฝ่ายค่อนข้างมองบวกต่อรายได้รวมในช่วงครึ่งปีหลังของ SAMTEL ที่น่าจะมีการรับรู้รายได้จากงานโครงการเข้ามามากขึ้น ส่วนแนวโน้มการฟื้นตัวผลการดำเนินงานปี 59 อาจจะยังไม่สดใสนัก แต่ทางฝ่ายเชื่อว่าจะทยอยดีขึ้นในปีหน้าจากแนวโน้มการฟื้นตัวของ SAMTEL และ OTO ที่มีอัตราการขยายตัวสูง ตลอดจนธุรกิจของ SIM ที่น่าจะเริ่มดีขึ้น กอปรกับราคาหุ้นปัจจุบันได้ปรับตัวลงมามากพอสมควรแล้ว ทางฝ่ายจึงปรับคำแนะนำจาก "ถือ" เป็น "ซื้อ" โดยมีราคาพื้นฐานปี 60 ที่ 16.70 บาทต่อหุ้น อิงวิธี SOTP (เปลี่ยนจากวิธี P/E)
บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (26 ก.ย.) ว่า บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAMART ทางฝ่ายค่อนข้างมองบวกต่อรายได้รวมในช่วงครึ่งปีหลังจากแนวโน้มการฟื้นตัวของ SAMTEL ที่น่าจะมีการรับรู้รายได้จากงานโครงการเข้ามามากขึ้น บวกกับธุรกิจของ OTO ที่มีรายได้เข้ามาต่อเนื่อง แต่ด้วยแนวโน้มของธุรกิจ SIM ที่ยังน่าเป็นห่วงจากผลการดำเนินงานครึ่งปีหลัง ที่คาดว่าจะยังขาดทุนต่อเนื่องจากความรุนแรงของการแข่งขันในตลาด Smart Phone จากการเข้ามาของแบรนด์ต่างประเทศใหม่ๆ ซึ่งมีราคาค่อนข้างถูก
อีกทั้งธุรกิจใหม่ของ SIM ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นการให้บริการ ทำให้มีรายได้เข้ามาไม่ค่อยมากนัก ในขณะที่บริษัทต้องแบกรับต้นทุนคงที่เป็นสัดส่วนที่สูง โดยธุรกิจ Non-Listed เองก็น่าจะยังทรงตัวใกล้เคียงกับสองไตรมาสแรก อาจกดดันต่อผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังอยู่
ทางฝ่ายปรับลดประมาณการกำไรสุทธิทั้งปี 59 ลง 46% มาที่ 523 ล้านบาท (เดิมคาด 963 ล้านบาท) ลดลง 35.3% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนจากคาดการณ์อัตรากำไรขั้นต้นที่ 22.3% จาก 21.9% ในปี 58 รวมทั้งปรับประมาณการรายได้รวมลงที่ 16,172 ล้านบาท (เดิมคาด 19,290 ล้านบาท) หดตัว 11.9% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับปี 60 ทางฝ่ายคาดผลการดำเนินงานน่าจะปรับตัวดีขึ้นเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน จาก SAMTEL ที่มีโอกาสฟื้นตัวสูง เนื่องจากงานประมูลโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐน่าจะมีความคืบหน้าและชัดเจนมากขึ้น อีกทั้ง OTO ที่มีการเซ็นสัญญางานใหม่ๆเข้ามา
ส่วนธุรกิจของ SIM คาดว่าผลการดำเนินงานน่าจะพลิกกลับมามีกำไรเล็กน้อยจากแรงหนุนของธุรกิจใหม่ที่น่าจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น แต่ทั้งนี้เศรษฐกิจในประเทศยังมีการแนวโน้มฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป อาจทำให้งานบางโครงการมีอัตรากำไรขั้นต้นต่ำ กระทบต่ออัตรากำไรขั้นต้นรวมอย่างมีนัยสำคัญ
ทางฝ่ายจึงปรับลดประมาณการกำไรสุทธิทั้งปี 60 ลง 40% มาที่ 698 ล้านบาท (เดิมคาด 1,164 ล้านบาท) ขยายตัว 33.6% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน จากสมมติฐานการปรับลดประมาณการรายได้รวมของบริษัทลงมาที่ 18,121 ล้านบาท (เดิมคาด 19,828 ล้านบาท) ปรับตัวดีขึ้น 12.1% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนโดยมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 22.4%
ผลการดำเนินงานปี 59 อาจจะยังไม่สดใสนัก แต่ทางฝ่ายเชื่อว่าจะทยอยดีขึ้นในปีหน้าจากแนวโน้มการฟื้นตัวของ SAMTEL และ OTO ที่มีอัตราการขยายตัวสูง ตลอดจนธุรกิจของ SIM ที่น่าจะเริ่มดีขึ้น กอปรกับราคาหุ้นปัจจุบันได้ปรับตัวลงมามากพอสมควรแล้ว ทางฝ่ายจึงปรับคำแนะนำจาก “ถือ” เป็น “ซื้อ” โดยมีราคาพื้นฐานปี 60 ที่ 16.70 บาทต่อหุ้น อิงวิธี SOTP (เปลี่ยนจากวิธี P/E)