LPH:ลุ้นกำไร 3Q59 ทำสถิติใหม่แนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 10.9 บ.
LPH คาดการณ์กำไรไตรมาส 3/59 แข็งแกร่ง ทาง DBSV ประมาณการไว้ที่ 44 ล้านบาท (+40% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, +16% เทียบไตรมาสก่อนหน้า) ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดใหม่ของโรงพยาบาล โดยรายได้คาดว่าจะเติบโต 10% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็น 321 ล้านบาท แนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 10.9 บ.
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (26 ก.ย.) ว่า บริษัท โรงพยาบาล ลาดพร้าว จำกัด (มหาชน) หรือ LPH คาดการณ์กำไรไตรมาส 3/59 แข็งแกร่ง ทาง DBSV ประมาณการไว้ที่ 44 ล้านบาท (+40% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, +16% เทียบไตรมาสก่อนหน้า) ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดใหม่ของโรงพยาบาล โดยรายได้คาดว่าจะเติบโต 10% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็น 321 ล้านบาท
โดยเป็นผลจากคนไข้ที่มาใช้บริการเพิ่มโดยเฉพาะส่วนคนไข้ประกันสังคม และมีรายได้จากศูนย์ตา ศูนย์เลเซอร์และรักษาผิวหนัง เข้ามาช่วยหนุน รวมทั้งไตรมาส 3 เป็นช่วงที่ดีของธุรกิจโรงพยาบาลด้วย ประเมินอัตรากำไรขั้นต้นที่ 26% ซึ่งเป็นเป้าหมายของ LPH ทั้งนี้ในส่วนงานประกันสังคมนั้นโรงพยาบาลมีรายได้เพิ่มแต่ต้นทุนสูงขึ้นไม่มากเพราะส่วนใหญ่เป็นต้นทุนคงที่ซึ่งเดิมมีอยู่แล้ว (อัตรากำไรขั้นต้นคนไข้ทั่วไปอยู่ที่ 20-25% และส่วนศูนย์บริการเฉพาะทาง 25-30%)
กำไรจาก AMARC เติบโตดี (AMARC : Asia Medical and Agricultural Laboratory and Research Center, LPH ถือหุ้น 97.14%) โดยคาดว่าจะอยู่ที่ 34 ล้านบาท (+15% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน and q-o-q) เพราะมีงาน Testing เข้ามามากขึ้น ซึ่งงานส่วนนี้มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงถึง 42%
กำไรจากเงินลงทุนในไตรมาส 3/59 อ่อนลง (คาดว่าจะเหลือ 1 ล้านบาทจาก 3 ล้านบาทใน 2Q59) ซึ่งเป็นผลจากการย้ายเงินลงทุนบางส่วนออกไปลงทุนในธุรกิจของโรงพยาบาล และมีการจัดสรร 10-15% ของเงินทุนไปยังตลาดหุ้น
พิจารณาการลงทุนในโรงพยาบาลเดชาอย่างระมัดระวัง โดยราคาขายที่ 500-700 ล้านบาทนั้นสูงเกินไปในความเห็นของ LPH จึงเสนอเป็นลักษณะของการเช่าดำเนินงานระยะยาว 20 ปี ขณะนี้กำลังรอผลการตัดสินใจจากเจ้าของโรงพยาบาลเดชา ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือนก.ย.59 นี้ ซึ่งหากเช่าสำเร็จ LPH จะใช้เงินลงทุน 100-200 ล้านบาทเพื่อปรับปรุงและซื้ออุปกรณ์การแพทย์ต่างๆ
ปรับคำแนะนำจากถือเป็นซื้อ โดยคงราคาพื้นฐานไว้ที่ 10.90 บาท (DCF, WACC 7% และ terminal growth rate 3.5%) ทั้งนี้คาดว่าผลประกอบการปี 59 จะเติบโตแข็งแกร่ง (+85%) และขยายตัวต่อได้ดีในปี 60 (+18%) แม้ว่าฐานกำไรของปี 59 จะสูงขึ้นมากก็ตาม โรงพยาบาลกำลังเร่งขยายในส่วนคนไข้ต่างชาติ (เพิ่งเปิดศูนย์ตาใน Joint Commission International ให้บริการคนไข้ประกันและคนไข้ต่างชาติเมื่อส.ค.59 และจะเปิดศูนย์เลเซอร์และรักษาผิวหนังในไตรมาส 4/59) โดยเน้นลูกค้าในกลุ่มประเทศ CLMV สำหรับความเสี่ยงหลัก คือ ต้นทุนบุคคลากรแพทย์และพยาบาลที่สูงขึ้น และถ้าดีลโรงพยาบาลเดชาไม่สำเร็จก็อาจกระทบราคาหุ้นในระยะสั้นได้