KTB:ถูกกดดันจากการตั้งสำรองฯสูงแนะนำ”ถือ”ราคาเป้าหมาย 18.6 บ.
KTB การเติบโตในปี 60 ยังจำกัดมาก โดยส่วนแบ่งการปล่อยสินเชื่อโครงการภาครัฐของธนาคารลดลง (9M59 สินเชื่อส่วนนี้หดตัวราว 30% ทำให้สัดส่วนการปล่อยสินเชื่อภาครัฐลดลงเหลือเพียง 4% ของสินเชื่อรวม จาก 7% ในสิ้นปี 58 และ 18% ในสิ้นปี 55) ด้าน NIM ยังมีความกดดัน รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยหลักขยายตัวลดลง ค่าใช้จ่ายในปี 60 เพิ่มขึ้นเพราะต้องลงทุนเกี่ยวกับดิจิตอลแบงค์กิ้ง
บล.ดีบีเอสฯ ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (2 พ.ย.) ว่า ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB การเติบโตในปี 60 ยังจำกัดมาก โดยส่วนแบ่งการปล่อยสินเชื่อโครงการภาครัฐของธนาคารลดลง (9M59 สินเชื่อส่วนนี้หดตัวราว 30% ทำให้สัดส่วนการปล่อยสินเชื่อภาครัฐลดลงเหลือเพียง 4% ของสินเชื่อรวม จาก 7% ในสิ้นปี 58 และ 18% ในสิ้นปี 55) ด้าน NIM ยังมีความกดดัน รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยหลักขยายตัวลดลง ค่าใช้จ่ายในปี 60 เพิ่มขึ้นเพราะต้องลงทุนเกี่ยวกับดิจิตอลแบงค์กิ้ง
คุณภาพสินทรัพย์ยังเป็นประเด็นที่กังวล และยังคงตั้งสำรองฯสูง โดย NPL มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นในช่วง 2 ไตรมาสข้างหน้าเป็นอย่างน้อย และอาจถึง 5% ในปี 60 ผู้บริหารให้ Guidance ว่าถ้าธนาคารมีกำไรจะตั้งสำรองฯเพิ่มจากระดับปกติที่ 3 พันล้านบาท/ไตรมาส เราจึงคาดการณ์ว่าสำรองฯในปี 60 อาจมากขึ้นจากปีนี้
ปรับลดคาดการณ์กำไรสุทธิปี 60 ลง 27% สะท้อนการตั้งสำรองฯเพิ่มขึ้น โดยประมาณการไว้ที่ 1.75% ของสินเชื่อรวมในปี 60 หรือคิดเป็นการตั้งสำรองฯ 8.5 พันล้านบาท/ไตรมาส เพิ่มขึ้นจากระดับปกติของธนาคารที่ 3 พันล้านบาท/ไตรมาส+สำรองฯของบริษัทย่อย 1.1 พันล้านบาท/ไตรมาส ซึ่งทำให้กำไรสุทธิปี 60 จะหดตัว 19% จากปีนี้ สำหรับกำไรก่อนสำรองฯ คาดการณ์ว่าจะลดลง 6.5% จากปี 59 โดยหลักมาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่ต่ำลง ขณะที่รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยทรงตัว แนะนำถือ ให้ราคาพื้นฐาน 18.60 บาท เทียบเท่ากับ P/BV ปี 60 ที่ 0.9 เท่า (คาดการณ์ BVS ณ สิ้นปี 59-60 เท่ากับ 19.9 บาท/หุ้น และ 21 บาท/หุ้น ตามลำดับ)