CENTELกำไรปี 58 เติบโตแข็งแกร่งแนะซื้อประเมินราคาพื้นฐานที่41.5บ.

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (30มี.ค.58) ว่า บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน)หรือ CENTEL ดำเนินธุรกิจโรงแรมและอาหาร นับเป็นการกระจายความเสี่ยงที่ดี โรงแรมอยู่ภายใต้แบรนด์ “เซ็นทารา” ส่วนอาหารมีหลายแบรนด์ ประกอบด้วย “Mister Donut, KFC, Auntie Anne’s, Pepper Lunch, Beard Papa’s, Chabuton, Cold Stone Creamery, RYU Shabu Shabu, The Terrace, Yoshinoya, Ootoya และ Tenya”

 ปี 2557 ถูกกระทบจากปัญหาการเมือง & เศรษฐกิจ รายได้รวมเติบโต 5.2% ส่วนกำไรสุทธิลดลง 11.7% ทั้งนี้รายได้จากธุรกิจโรงแรม : อาหาร เท่ากับ 45% : 55% โดยอัตราการเข้าพักของโรงแรมเท่ากับ 74.8% และอัตราค่าห้องพักเฉลี่ย 4,855 บาท/คืน ส่วนธุรกิจอาหารมีสาขาทั้งหมด 781 แห่ง (เพิ่มขึ้น 38 แห่งจากปีก่อน) และอัตราการเติบโตของสาขาเดิม (SSSG) เท่ากับ 1.4%

ธุรกิจฟื้นตัวดีต่อในไตรมาส 1/58 ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาอัตราการเข้าพักของโรงแรมเพิ่มเป็น 85% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 75% และ RevPar เพิ่มขึ้นได้ 7%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนธุรกิจอาหารมี SSSG ที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน รวมทั้ง EBITDA Margin ของอาหารก็ดีขึ้นด้วย

ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วและจะเติบโตแข็งแกร่งในปี 2558-2559 คาดอัตราการเข้าพักของโรงแรมจะเพิ่มเป็น 80.9% และ 83.2% ในปี 2558-2559 อัตราค่าห้องพักเพิ่มขึ้น 3% และ 5% ตามลำดับ โดยมาจากการฟื้นตัวของธุรกิจโรงแรมที่กรุงเทพและมัลดีฟท์ (คิดเป็น 50% ของรายได้ของโรงแรม) ชดเชยกับการชะลอตัวของโรงแรมที่พัทยา (เพราะลูกค้ารัสเซียเข้ามาน้อยลง) มีการเปิดสาขาของอาหารเพิ่ม 31 แห่ง และ 44 แห่ง และ SSSG ขยับขึ้นเป็น 3.1% และ 3.9% จากสมมติฐานหลักดังกล่าวทำให้ประมาณการกำไรสุทธิปี 2558-2559 จะขยายตัว 35% และ 24% ตามลำดับ

แนะนำซื้อ ประเมินราคาพื้นฐานไว้ที่ 41.50 บาท (DCF) โดยระยะสั้นมีปัจจัยกระตุ้นจากการฟื้นตัวและเติบโตที่ดีของภาคท่องเที่ยว และโอกาสที่คสช.จะยกเลิกการใช้กฎอัยการศึกมีมากขึ้น ส่วนระยะยาวเป็นเรื่องของการลงทุนใหม่ๆ ซึ่งบริษัทจะเน้นลงทุนในต่างประเทศเพื่อกระจายฐานรายได้และความเสี่ยงทางธุรกิจให้มากขึ้น ความเสี่ยงหลัก คือ ปัญหาการเมือง และเศรษฐกิจภายในซบเซากว่าที่คาด