SYNTECยังอยู่ในช่วงวัฎจักรขาขึ้นแนะนำซื้อราคาพื้นฐาน 4.15 บาท

บล. ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุในบทวิเคราะห์ (21 เม.ย.) ว่า บริษัท ซินเท็ค คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SYNTEC มี Backlog ในมือ ณ สิ้นปี 57 สูงที่ 10.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 6% และสูงกว่า 5 ปีย้อนหลัง 83% แบ่งเป็นงานอาคารสูงมากสุด 29 โครงการ อาคารพาณิชย์ 2 โครงการ และสาธารณูปโภค 1 โครงการ งานก่อสร้างใหม่ที่ประมูลได้ให้อัตรากำไรขั้นต้น 15% สูงกว่างานในมือที่เฉลี่ย 12% สืบเนื่องจากการแข่งขันในอุตสาหกรรมที่น้อยลง ด้านจำนวนพนักงานในสำนักงาน ที่ไซด์งานและโกดังเป็น 919 คน สูงสุดในรอบ 10 ปี ส่วนแรงงานทั้งหมดมีมากไปถึง 4,152 คนแล้ว


บล. ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุในบทวิเคราะห์ (21 เม.ย.) ว่า บริษัท ซินเท็ค คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SYNTEC มี Backlog ในมือ ณ สิ้นปี 57 สูงที่ 10.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 6% และสูงกว่า 5 ปีย้อนหลัง 83% แบ่งเป็นงานอาคารสูงมากสุด 29 โครงการ อาคารพาณิชย์ 2 โครงการ และสาธารณูปโภค 1 โครงการ งานก่อสร้างใหม่ที่ประมูลได้ให้อัตรากำไรขั้นต้น 15% สูงกว่างานในมือที่เฉลี่ย 12% สืบเนื่องจากการแข่งขันในอุตสาหกรรมที่น้อยลง ด้านจำนวนพนักงานในสำนักงาน ที่ไซด์งานและโกดังเป็น 919 คน สูงสุดในรอบ 10 ปี ส่วนแรงงานทั้งหมดมีมากไปถึง 4,152 คนแล้ว

ขณะเดียวกันประมูลงานในช่วงไตรมาส1/58 ได้อีก 2.3 พันล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 29% จากเป้าประมูลงานปีนี้ที่ 8 พันล้านบาท จึงมีโอกาสสูงที่จะประสบความสำเร็จที่จะบรรลุเป้าหมาย หรือทำได้ดีกว่า ทั้งนี้งานที่ประมูลได้ทั้งหมด 4 โครงการ ใหญ่สุดคือ คอนโด Noble Revolve มูลค่า 1.4 พันล้านบาท ปัจจุบันบริษัทมีโครงการที่ดำเนินการอยู่ 32 โครงการ พื้นที่ทั้งหมด 1.5 ล้านตารางเมตร มูลค่า 17.8 พันล้านบาท แต่เหลือ Backlog 10.6 พันล้านบาท

นอกจากนี้เตียมเข้าประมูลงานเพิ่มอีก 18 โครงการ มูลค่ารวม 14.9 พันล้านบาท หากใช้โอกาสประสบความสำเร็จในการประมูล (success ratio) ที่ 30% จะได้งานเพิ่มอีกประมาณ 4.5 พันล้านบาท เมื่อรวมงานที่ได้ YTD 2.3 พันล้านบาท ก็แสดงว่าระหว่างปี หากประมูลงานได้เพิ่มอีก 1.2 พันล้านบาท ก็จะบรรลุเป้าหมายปีนี้แล้วที่ 8 พันล้านบาท ปัจจุบันบริษัททำงานให้กับบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดฯ เช่น SPALI, PS, AP, NOBLE, LH และจะมีรายใหม่ๆเข้ามาเช่น QH ข้อดีคือ เจ้าของงานไม่มีปัญหาเรื่องการจัดหาเงินทุน ทำให้การทำงานและได้รับเงินค่าก่อสร้างไม่สะดุด

ล่าสุดประหยัดค่าเหล็กก่อสร้างได้ประมาณ 80-100 ล้านบาท บริษัทสั่งซื้อเหล็กที่จำนวน 2 หมื่นตัน แต่ราคาเหล็กทยอยปรับลงเหลือ 14-15 บาทต่อกก.แต่ตอนประมูลงานคิดค่าเหล็กไว้ที่ 18-20 บาท จึงมีกำไรประมาณ 80-100 ล้านบาท หรืออัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นต่อปีเป็น 0.5-0.6% เพราะงานก่อสร้างใช้เวลาเฉลี่ยประมาณ 2 ปี และรายได้ต่อปีในปัจจุบันเป็นประมาณ 7 พันล้านบาท

อีกทั้งถือหุ้น BMCL ในต้นทุนที่ต่ำและมีโอกาสบันทึกรายได้พิเศษ ปัจจุบันเหลือหุ้น BMCL อีก 180 ล้านหุ้น ที่ต้นทุนเฉลี่ยต่ำเพียง 1.26 บาท จึงมีกำไรที่ยังไม่รับรู้ประมาณ 124 บาท หรือคิดเป็น 0.08 บาทต่อหุ้น SYNTEC นอกจากนี้คดีความที่เคยตั้งสำรองเป็นค่าใช้จ่ายไว้หากในที่สุดคดีความจบแล้วบริษัทชนะ ก็จะกลับรายการสำรองบันทึกกลับมาเป็นรายได้ เช่น 1) โรงแรมคาปินสกี้ ประมาณ 140 ล้านบาท (รวมดอกเบี้ย 60 ล้านบาท) 2) Sky Walk 5-10 ล้านบาท และ 3) งานการบินไทย ที่จะเรียกร้องจาก ผู้รับเหมาช่วงคือ STEC อีก 32 ล้านบาท

คาดอัตราการเติบโตกำไรปกติปีนี้สูงเป็น 39% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และทรงตัวในปีหน้า แต่บริษัทจะสามารถใช้การขายทำกำไร BMCL และกำไรพิเศษต่างๆมาช่วยเสริมกำไรได้ ทั้งนี้ในประมาณการปีนี้และปีหน้า ฝ่ายวิจัยฯ DBSV มีสมมุติฐานให้มีกำไรพิเศษเป็น 34 และ 70 ล้านบาท ตามลำดับ

แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐานเท่ากับ 4.15 บาท ประเมินด้วย P/E ปี 58 ที่ 11 เท่า เราเห็นว่าบริษัทยังมีข้อดีอีก 2 ประการคือ 1) รายได้ค่าเช่าจาก SA ทยอยเพิ่มขึ้น ปีนี้นอกจากแนชเชอรัล วิลล์ที่ลุมพินี ก็จะมีโครงการที่ศรีราชา ภายใต้บริษัทย่อย เอสซีอาร์ โครงการแรกเข้ามาเสริม ปีหน้าก็จะมีโครงการสองแล้วเสร็จเข้ามาเพิ่มรายได้อีก และ 2) มีที่ดินเปล่าจำนวน 55 ไร่ที่ทำเล เอกมัย-รามอินทรา ต้นทุนเพียง 1.8 ล้านบาทต่อไร่ ปัจจุบันปรับเพิ่มไปถึง 4.5 ล้านบาทต่อไร่ คิดเป็นกำไรแฝงที่ 149 ล้านบาท หรือ 0.09 บาทต่อหุ้น SYNTEC

 

 

Back to top button