AAV ราคาปรับลงรับข่าวลบมากเกินไปโอกาสทองในการซื้อสะสมมาถึงแล้ว!
บล.เอเซีย พลัส คาด AAV ได้รับผลกระทบน้อยมาก จากกรณีที่กรมการบินพลเรือนตกมาตรฐานการบิน โดยเฉพาะปัจจุบันแนวทางการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนชัดเจน (เสร็จสิ้น ก.ค. นี้) ราคาหุ้นที่ปรับตัวลงถึง 15% หลังเกิดเหตุดังกล่าว ถือเป็นโอกาสทองให้ซื้อสะสม
บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (22 เม.ย.) ว่า จากการประชุมกับบริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV หลักๆเป็นการชี้แจงกรณีกรมการบินพลเรือนไทย (บพ.) ตกมาตรฐานการบินของกรมการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ซึ่งอาจส่งผลให้นานาประเทศระงับสายการบินสัญชาติไทยเข้าประเทศ โดยแม้มีสิ่งที่ต้องแก้ไข 560 ข้อ แต่มีเพียง 33 ข้อที่เป็นเรื่องเร่งด่วน (ที่เหลือเป็นประเด็นที่ทยอยแก้ไขได้)
โดยทั้งหมดเป็นเรื่องข้อบกพร่องที่มีนัยต่อความปลอดภัย 4 เรื่อง คือ 1) ปรับปรุงคู่มือมาตรฐานการบิน รวมถึง 2) คู่มือการกำกับดูแลสายการบินให้ทันสมัย 3) เพิ่มเจ้าหน้าที่ตรวจสอบสายการบิน พร้อมฝึกอบรมให้ได้มาตรฐาน และ 4) เมื่อแก้ 3 เรื่องแล้ว ให้ทบทวนการให้ใบอนุญาตสายการบินอีกครั้ง
ทั้งนี้ สายการบินสัญชาติไทยหลักๆ และรัฐฯ ได้ร่วมมือกันแก้ไขปัญหาคือ นำบุคคลากรตนเองที่มีความสามารถ รวมถึงจ้างบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญต่างประเทศเข้ามาช่วย ซึ่ง AAV คาดการแก้ไขจะเสร็จใน ก.ค. นี้ และจะไม่ได้รับผลกระทบ ส่วนกรณีเลวร้าย หากแก้ไขล่าช้าและถึงขั้นถูกสั่งห้ามบินจากนานาประเทศ ยังมีทางเลือกให้ ICAO หรือประเทศที่ไม่แน่ใจในความปลอดภัยตรวจสอบสายการบินโดยตรง ซึ่ง AAV มั่นใจว่ามาตรฐานการบินตนเองผ่านแน่นอน
แม้ช่วงก่อนหน้านี้ประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และจีน จะห้ามสายการบินสัญชาติไทยเพิ่มเที่ยวบินเหมาลำและจุดบินใหม่ แต่หลังจากรัฐบาลไทยเจรจา ได้มีการผ่อนปรนให้ถึง พ.ค. 58 อย่างไรก็ตาม การแก้ปัญหาที่จะเสร็จหลังจากครบกำหนด 90 วันที่ ICAO แจ้งเตือน คือ มิ.ย. นี้ และไปอยู่ช่วง ก.ค.58 อาจทำให้รัฐฯต้องเจรจาอีกครั้ง แต่เชื่อว่าด้วยความกระตือรือร้นในการแก้ไขปัญหา (รายงาน ICAO ทุก 15 วัน) จะมีช่วยให้การเจรจาราบรื่น ขณะที่กรณีเลวร้าย
หากเจรจาไม่สำเร็จ สายการบินต่างๆ มีทางเลือกให้ ICAO และประเทศต่างๆ ตรวจสอบมาตรฐานโดยตรง ซึ่งเชื่อว่า AAV จะผ่านแน่นอน แม้ไม่มีมาตรฐานการบินระดับโลก (IOSA) เหมือน BA และ THAI แต่เห็นมาตรฐานการบินปัจจุบันอยู่ในระดับสูง ผ่านการตรวจสอบจากการให้บริการปัจจุบันในจีน ภาพรวม จึงเชื่อว่าผลประกอบการ AAV จะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากกรณีนี้ ทั้งนี้ ส่วนสายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ๊กซ์ ที่ให้บริการจุดบินญี่ปุ่น เกาหลีใต้ แม้เป็นบริษัทเกี่ยวข้องกัน (ถือหุ้นโดยผู้บริหาร AAV) แต่ไม่มีการถือหุ้นระหว่างกัน
หลังเกิดประเด็นลบดังกล่าว ราคาหุ้น AAV ปรับตัวลงถึง 15% สวนทางผลประกอบการที่คาดไม่ได้รับผลกระทบ อีกทั้งจะ Turnaround จากจุดตกต่ำปีก่อน (ผู้โดยสารฟื้น และต้นทุนน้ำมันลดลง) ราคาปัจจุบันที่สะท้อนข่าวร้ายมากเกินเหตุจนมี Upside สูง 24% เชื่อว่าเป็นโอกาสทยอยสะสมเพื่อลงทุน ราคาเป้าหมาย 6.00 บาท