โบรกชี้ SCB ราคา Laggard-อัพไซด์น่าสนสุดในกลุ่มซื้อเป้า174บ.
SCB โบรกชี้ราคา Laggard แถมอัพไซด์น่าสนสุดในกลุ่มซื้อเป้า 174 บ.
บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(4 ก.ค.) ว่า ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB คาดกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 2/60 อยู่ที่ 11,596 ล้านบาท ลดลง 3% เทียบไตรมาสก่อนหน้า และ 10% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีประเด็นสำคัญคือ
คาดรายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลงราว 1%เทียบไตรมาสก่อนหน้า แม้ว่าสินเชื่อรวมจะเติบโตได้บ้างเล็กน้อยในกลุ่มสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่และสินเชื่อรายย่อย แต่ NIM อาจอ่อนตัวลงราว 7 bps มาอยู่ที่ 3.12% ซึ่งเป็นผลกระทบจากการลดดอกเบี้ย MOR, MRR และ MLR ลง 25 bps ในช่วงเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา
คาดรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจะเติบโตได้ราว 2%เทียบไตรมาสก่อนหน้า โดยคาดว่าจะได้แรงหนุนหลักจากรายได้จากการรับประกันภัยที่ฟื้นตัวต่อเนื่องมาจากไตรมาสก่อน
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอาจปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ส่วนหนึ่งเป็นค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงระบบภายในต่างๆ อาทิ ระบบ IT เพื่อรองรับการดำเนินงานในอนาคต โดยคาด Cost-to-income ratio ที่ 41.1% เพิ่มขึ้นจาก 40.6% ในไตรมาสก่อน
อาจเห็นสัดส่วน NPL เพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยจากลูกหนี้ในกลุ่ม SME ซึ่งโดยรวมยังประสบปัญหาสภาพคล่อง จึงคาดค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญในไตรมาสนี้ปรับตัวสูงขึ้นอีกราว 4%เทียบไตรมาสก่อนหน้า หรือคิดเป็น Credit Cost ที่ 105 bps
คาดกำไรสุทธิสำหรับปี 60 ไว้ที่ 50,960 ล้านบาท โดยหากกำไร ไตรมาส 2/60 ออกมาใกล้เคียงคาดจะทำให้กำไรครึ่งปีคิดเป็นราว 46.4% ของประมาณการทั้งปี โดยในช่วงที่เหลือของปีเราคาดว่าแรงกดดันจากคุณภาพหนี้ในกลุ่ม SME จะลดลง เนื่องจากธนาคารได้ระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อในกลุ่มนี้มาระยะหนึ่งแล้ว แต่ผลกระทบจาก NIM ที่ลดลงจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยยังไม่อยู่ในประมาณการ จึงอาจมีการปรับลดประมาณการกำไรสุทธิสำหรับปี 60 ได้ในอนาคต
เรายังคงราคาเป้าหมายไว้ที่ 174 บาท อิง PBV 1.64 เท่า โดยราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมาเพียง 2.6%YTD ค่อนข้าง Laggard กลุ่มธนาคารขนาดใหญ่อื่นที่โดยเฉลี่ยปรับตัวขึ้นมาถึง 11%YTD ทำให้ Upside ในปัจจุบันของ SCB น่าสนใจที่สุดในกลุ่ม จึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”