PLE ปัจจัยบวกหนุนต่อเนื่องแนะ”ซื้อเก็งกำไร”เป้าสูง 1.94 บาท

PLE ปัจจัยบวกหนุนต่อเนื่อง แนะซื้อเก็งกำไร เป้าสูง 1.94 บาท


บล.ดีบีเอสฯ ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(30 ส.ค.) ว่า บริษัท เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ PLE ได้พันธมิตรจีนประมูลงานขนาดใหญ่ของ AOT เสนอราคาต่ำสุดงานอาคารแซทเทิลไลท์ชั้น 2-4 สุวรรณภูมิเฟส 2 ที่ 1.42 หมื่นลบ. กลุ่มกิจการร่วมค้า PCS ที่ประกอบด้วย บมจ.เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง (PLE) และบริษัท ไชน่า สเตท คอนสตรัคชั่น เอนยิเนียริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดที่ 1.42 หมื่นล้านบาท ต่ำกว่าราคากลางประมาณ 12% หรือประมาณเกือบ 2 พันล้านบาทจากที่กำหนดไว้ที่ 1.6 หมื่นล้านบาท ถือว่าเป็นงานขนาดใหญ่มากสำหรับบริษัทรับเหมาก่อสร้างขนาดกลางอย่าง PLE แต่ยังไม่เปิดเผยถึงสัดส่วนการถือหุ้น และอัตรากำไรที่ได้รับ

ทำ MOU ขายหุ้นบำรุงเมืองพลาซ่าให้ธนบุรี เฮลท์แคร์ บอร์ดมีมติอนุมัติให้ PLE เข้าลงนามในบันทึกข้อตกลงเบื้องต้น (“MOU”) สำหรับการขายหุ้นของ บริษัท บำรุงเมืองพลาซ่า จำกัด (“BMP”) (บริษัทย่อย)ที่ PLE ถืออยู่ทั้งหมด 23.3 ล้านหุ้น (99.997%) ให้แก่บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (THG) เป็นเงินประมาณ 2,100 ล้านบาท โดยมีเงื่อนไขที่สำคัญบางประการ

ผลกระทบเป็นบวกมากจากดีลขาย BMP ในกรณีที่ดีลนี้สำเร็จ คือจากหมายเหตุงบการเงิน 1Q60 ต้นทุนของหุ้น BMP คือ 1,826.2 ล้านบาท ดังนั้นจะมีกำไรก่อนภาษีที่ประมาณ 273.8 ล้านบาท ซึ่งจะบันทึกในช่วง 4Q60 ตามกำหนดการดีลนี้แล้วเสร็จภายใน 31 ต.ค.60 และการได้รับเงินเข้ามา 2,100 ล้านบาท จากการขายหุ้น BMP จะทำให้สภาพคล่องทางการเงินดีขึ้นมาก เพราะ PLE มีเงินกู้ที่ครบกำหนดชำระภายในปีนี้ที่ 2,388 ล้านบาท

รอคอยการขายหุ้นเพิ่มทุน PP ในส่วนที่เหลือให้สำเร็จ หลังขายหุ้นเพิ่มทุนพีพี 170 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ1.1939บ. จ่ายเงิน 8-11ส.ค.60 ที่ผ่านมา ยังเหลือหุ้นอีก 816.3 ล้านหุ้น หากขายได้สำเร็จจะได้รับเงินเพิ่มเข้ามาอีกประมาณ 974.5 ล้านบาท มีข้อดีคือ บริษัทสามารถนำไปใช้ลงทุน คืนหนื้ และสภาพคล่องการเงินดีขึ้น แม้ว่าจะมี dilution effect และไม่มีระยะเวลาห้ามขายหุ้น (silence period) ซึ่งไม่ถือว่าเสนอขายในราคาที่ต่ำตามเกณฑ์ของตลาดฯ

แนะนำ ซื้อเก็งกำไร จากข่าวดีที่ทยอยเข้ามา กำไรสุทธิในรอบ 1H60 ดีขึ้น 68% เป็น 47 ล้านบาท หากไม่นับกำไรพิเศษ กำไรหลักในรอบ 1H60 เป็น 18 ล้านบาท ฟื้นตัวจาก y-o-y ที่ -4 ล้านบาท เพราะรายได้หลักและรายได้อื่นๆเพิ่ม รวมทั้งสัดส่วนค่าใช้จ่ายขาย-บริหารเทียบกับรายได้ลด ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายด้วย P/E และ P/BV 4 ไตรมาสย้อนหลัง (Trailing) ที่ 8.6 และ 1.7 เท่า เทียบกับอุตสาหกรรมที่ 39.3 และ 2.2 เท่า ตามลำดับ หากเบื้องต้นกำหนดให้ซื้อขายด้วย P/BV ในช่วง 2.0-2.2 เท่า ใกล้เคียงกับอุตสาหกรรม จะได้ราคาพื้นฐานที่ 1.76-1.94 บาท จากมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้น ณ สิ้น 2Q60 ที่ 0.88 บาท

Back to top button