GUNKUL คาดกำไรครึ่งปีหลังฟื้นตัวแนะซื้ออัพไซด์หรูเป้า 5 บ.

GUNKUL คาดกำไรครึ่งปีหลังฟื้นตัวแนะซื้ออัพไซด์หรูเป้า 5 บ.


บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(25 ก.ย.) ว่า บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL กำไรปกติ ไตรมาส2/60 ลดลง 20.8% เทียบไตรมาสก่อนหน้าและ 27.6% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนจากธุรกิจหลักเดิมคือ ธุรกิจขายอุปกรณ์ไฟฟ้า (Trading) และรับเหมาก่อสร้างโรงไฟฟ้า (EPC) มีรายได้เพิ่ม แต่ Gross margin ลดลงจากการแข่งขันในธุรกิจเพิ่มขึ้น ขณะที่รายได้ธุรกิจขายไฟฟ้าพลังงานทดแทนลดลง 17.3% เทียบไตรมาสก่อนหน้าตามรายได้โรงไฟฟ้าพลังงานลม “WED” (60 MW เริ่ม COD เฟสแรก 10 MW 1Q16 และเฟสสอง 50 MW ปลายปี 2016) เนื่องจากเป็นช่วงมีความเร็วลมน้อยกว่าปกติ กอปรกับดอกเบี้ยจ่ายเพิ่ม 98.1% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน(Flat Q-Q) แต่คาดว่าผลการดำเนินงานในช่วง ครึ่งหลังปีนี้ จะดีขึ้น H-H โดยคาดรายได้จากโรงไฟฟ้า WED เพิ่มขึ้น จากความเร็วลมในเดือน ก.ค. กลับมาเพิ่มขึ้น และช่วงปลาย ไตรมาส4/60 – ต้น ไตรมาส1/61 จะมากตามฤดูกาล

ปรับประมาณการกำไรปกติปี 2017 ลง 30% และปี 2018 ปรับลง 16% สะท้อนกำไร ไตรมาส2/60 ที่อ่อนแอกว่าคาด และแนวโน้มการเริ่มการผลิตเชิงพาณิชย์ (COD) ของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม “GNP” (GUNKUL ถือหุ้น 99.97%) ขนาด 60 MW ล่าช้าจากเดิม ไตรมาส 4/60 เป็นไตรมาส 1/61 เป็นกำไรปกติปี 2017 โต 15.7% และจะโตสูง 87.2% ในปี 2018  ปัจจัยหนุนจากรายได้และกำไรจากโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นและมีอัตรากำไรสูงขึ้น จากการ COD ของ 4 โรงไฟฟ้าในไทยและญี่ปุ่น คือ โรงไฟฟ้า GNP ใน ไตรมาส1/61, โรงไฟฟ้าพลังงานลม “KWE” ขนาด 50 MW ภายใน 2Q18 และ 2 โรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่น คือ “GK Sendai” ขนาด 32 MW และ “GK Kimitsu” ขนาด 34 MW ใน 2Q18 และ 4Q18 ตามลำดับ

ปัจจุบันบริษัทมีกำลังผลิตไฟฟ้าพลังงานทดแทนที่มีสัญญาขายไฟระยะยาว (PPA) 20-25 ปี ในมือที่ 489 MW โดยส่วนใหญ่เริ่มทยอย COD มากในปี 2016-2018 และปี 2022 (โครงการโซลาร์ฟาร์มในญี่ปุ่น) บริษัทคงมุ่งหวังกำลังผลิตเพิ่มเป็นระดับ 1,000 MW โดยจะเข้าร่วมโครงการประมูลในประเทศ คือ โครงการ SPP Hybrid 300 MW ซึ่งทางการ (กกพ.) ให้ยื่นขอเสนอขายไฟทางเทคนิคและราคา ในช่วงวันที่ 2-6 ต.ค. นี้ด้วย แม้มองว่าบริษัทไม่ถนัดนัก รวมทั้งมองหาโอกาสในต่างประเทศ ทั้งในญี่ปุ่น เวียดนาม มาเลเซีย

คงคำแนะนำ ซื้อลงทุนระยะยาว จากคาดการณ์กำไร ครึ่งหลังปีนี้ ฟื้นตัวและโตสูงในอีก 2 ปีข้างหน้า ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันมี Upside 24% จากราคาเป้าหมายที่ปรับไปใช้เป็นเป้าปี 2018 ที่ 5 บาท (SOTP)

 

Back to top button