THAI ราคาตอบรับกำไรช่วงสั้นใน Q1 แล้วหมดเวลาเก็งกำไร ถือรอการฟื้นตัวระยะยาว
บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า แม้ผลประกอบการไตรมาส 1/58 สดใสตามคาด แต่ถือเป็นจุดสูงสุดของปีแล้ว ระยะถัดไปมีแนวโน้มพลิกกลับเป็นขาดทุนอีกครั้ง ราคาหุ้นที่พุ่งขึ้นตอบรับประเด็นบวกช่วงสั้น แนะนำให้ขายสำหรับผู้เข้าเก็งกำไร คำแนะนำด้านพื้นฐานให้ “ถือ” รอฟื้นตัวระยะยาว
บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (13 พ.ค.) ว่า บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/58 ที่ 4.5 พันล้านบาท ต่ำกว่าฝ่ายวิจัยคาด ราว 1 พันล้านบาท เนื่องจากตั้งสำรองด้อยค่าเครื่องบินมากกว่าที่ฝ่ายวิจัยประเมินไว้
หากไม่รวมรายได้พิเศษสุทธิในไตรมาส 1/58 ที่ 133 ล้านบาท (กำไร FX สุทธิกับการตั้งสำรองด้อยค่าเครื่องบินหลังภาษี) กำไรปกติไตรมาส 1/58 ของ THAI อยู่ที่ 4.4 พันล้านบาท เกิดจากต้นทุนบริการที่ปรับตัวลง 19% จากไตรมาส 4/57 เป็นไปตามอานิสงส์ต้นทุนน้ำมันลดลง (32% ของต้นทุน)
โดยต้นทุนราคาน้ำมันเครื่องบิน THAI ลดลงจาก 123 เหรียญต่อบาร์เรลในไตรมาส 4/57 มาอยู่ราว 90-95 เหรียญต่อบาร์เรล (ตามทิศทางราคาน้ำมันโลก) ด้านรายได้ขายและบริการฟื้นตัว 1.9% จากไตรมาสก่อน เป็นผลปริมาณขนส่งผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น 7.2% จากไตรมาสก่อน แต่ถูกหักล้างบางส่วนจากรายได้ค่าโดยสาร ต่อ คน ต่อ กม. (Passenger Yield) ที่ลดลง 1.9% จากไตรมาสก่อน
ทั้งนี้ คาดว่ากำไรปกติไตรมาส 1/58 เป็นจุดสูงสุดของปีแล้ว โดยไตรมาส 2-3/58 แม้ THAI มักจะเผชิญขาดทุนปกติระดับสูงในอดีต เนื่องจากเป็นช่วงนอกฤดูกาล แต่ปีนี้เชื่อว่าขาดทุนปกติจะลดระดับลง เพราะมีตัวช่วยจากต้นทุนน้ำมันที่ได้ประโยชน์น้ำมันโลกราคาต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมถึงยังเห็นสัญญาณบวกยอดจองที่นั่งใน เม.ย.และพ.ค. ที่คิดเป็น Cabin Factor ราว 70% ต่ำกว่าจุดคุ้มทุน 73%-74% ไม่มาก
อย่างไรก็ตาม ผลบวกที่ไตรมาส 2-3/58 THAI จะไม่ต้องรับรู้รายจ่ายพิเศษจากการตั้งด้อยค่าเครื่องบินตามแผนเดิม เนื่องจากส่วนใหญ่บันทึกไปแล้วในไตรมาส 1/58 แต่กลับมีความเสี่ยงที่จะอาจต้องรับรู้ขาดทุนพิเศษจาก FX แทน (เงินบาทต่อเยนและยูโรนับจากต้นไตรมาส 2/58 อ่อนตัวลงถึง 4.0% และ 8.0% อาจส่งผลให้หนี้สินต่างประเทศแปลงเป็นบาทเพิ่มขึ้น) ไตรมาส 2-3/58 THAI จึงมีความเสี่ยงเผชิญขาดทุนสุทธิ
นอกจากนี้ แม้คาด THAI จะกลับมาสร้างกำไรปกติได้อีกครั้งในไตรมาส 4/58 ตามแรงหนุนช่วงฤดูกาล แต่อาจจะต้องเผชิญขาดทุนสุทธิต่อจากไตรมาส 2-3/58 จากรายจ่ายพิเศษตามแผนปฏิรูปองค์กร โดยเปิดโครงการให้เกษียณก่อนกำหนด 5.5 พันล้านบาท ภาพรวมจึงยังคงคาดขาดทุนปีนี้ 7.8 พันล้านบาท ตามประมาณการฝ่ายวิจัย
เชื่อว่าราคาหุ้นวานนี้ที่ปรับตัวขึ้นแรง ได้ตอบรับการพลิกมีกำไรระยะสั้นแล้ว แนะนำให้ทยอยขายสำหรับผู้ที่เข้าเก็งกำไร ขณะที่คำแนะนำด้านพื้นฐานยังคงให้ “ถือ” รอการฟื้นตัวในระยะยาว ราคาเป้าหมาย 15.3 บาท