MCการฟื้นตัวธุรกิจระยะสั้นยังไม่เด่นชัดแต่แนะซื้อชูจุดเด่นปันผลสูงเป้า 16.2 บ.
MC กำไรไตรมาส1/58 วูบเหลือ 195 ล้านบาท ชี้การฟื้นตัวของธุรกิจจากยอดขายสาขาเดิมจะยังไม่เด่นชัดในระยะสั้น แต่ยอดขายมีโอกาสเติบโตจากการขยายจุดจำหน่ายและการกระตุ้นยอดขายด้วยแคมเปญการตลาดที่ Aggressive แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 16.20 บาท
บล.ดีบีเอสฯ ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (18 พ.ค.58) บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MC รายงานกำไรสุทธิไตรมาส1/58 เท่ากับ 195 ล้านบาท ลดลง 6%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยหลักมาจากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการเปิดจุดจำหน่ายเพิ่มและมีค่าใช้จ่ายด้านการตลาดสูงขึ้น ทั้งนี้กำไรสุทธิ ไตรมาส1/58 คิดเป็น 26% ของประมาณการกำไรสุทธิทั้งปี 58 ของเรา
ยอดขายรวมเติบโต 4%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน มาจากการเพิ่มจุดจำหน่าย โดยจุดจำหน่าย ณ สิ้นมี.ค.58 อยู่ที่ 830 แห่ง (+11 แห่งจากสิ้นปี 57 โดยร้านค้าปลีกของตนเองเพิ่ม 8 แห่งเป็น 259 แห่ง, ร้านค้าในห้างสมัยใหม่เพิ่ม 2 แห่งเป็น 544 แห่ง และจุดจำหน่ายต่างประเทศเพิ่ม 1 แห่งเป็น 22 แห่ง) สำหรับยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ลดลง 5.4%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน
อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มเป็น 56.1% ใน ไตรมาส1/58 จาก 55.3% ในไตรมาส1/57 เพราะสัดส่วนรายได้จากร้านค้าปลีกของตนเอง (FSS Sales) เพิ่มขึ้นเป็น 50% ของรายได้รวม (จาก 46% ใน ไตรมาส1/57) รวมถึงการปรับปรุงสายการผลิตให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น
ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มเป็น 35.0% ต่อยอดขายใน ไตรมาส1/58 จาก 29.7% ใน ไตรมาส1/57 เนื่องจากการทำโปรโมชั่นทางการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขายและมีค่าใช้จ่ายในการเปิดจุดจำหน่ายใหม่ๆ
อัตราภาษีจ่ายในไตรมาส1/58 ลดลงเป็น 2.6% จาก 11.6% ใน ไตรมาส1/57 เพราะบริษัทย่อยที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีมีกำไรเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
สินค้าคงเหลืออยู่ในระดับสูง แต่สภาพคล่องทางการเงินยังแข็งแรง สินค้าคงเหลือเพิ่มขึ้นเป็น 1.77 พันล้านบาท ณ สิ้นมี.ค.58 (เพิ่ม 277 ล้านบาทจากสิ้นปี 57) นับว่าอยู่ในเกณฑ์สูงเพราะคิดเป็น Inventory Turnover ถึง 342 วัน (เพิ่มจาก 291 วันในสิ้นปี 57) ซึ่งส่วนนี้ทำให้กระแสเงินสดจากการดำเนินงานเหลือเพียง 34 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีสภาพคล่องทางการเงินที่ดี โดยมีเงินสดสุทธิและเงินลงทุนระยะสั้นรวม 1.5 พันล้านบาทในสิ้นมี.ค.58
การฟื้นตัวของธุรกิจจากยอดขายสาขาเดิมจะยังไม่เด่นชัดในระยะสั้น แต่ยอดขายมีโอกาสเติบโตได้จากการขยายจุดจำหน่ายและการกระตุ้นยอดขายด้วยแคมเปญการตลาดที่ Aggressive ซึ่งส่วนนี้จะทำให้บริษัทมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารสูงต่อเนื่องไปอีกระยะหนึ่ง
แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 16.20 บาท อิงกับ P/E ปี 58 ที่ 17 เท่า ทั้งนี้จุดเด่นของบริษัท คือ การจ่ายปันผลสูง เราคาดการณ์ Dividend Yield ปีนี้เท่ากับ 6.4% และมี ROE ที่แข็งแกร่ง 19.6% ในปี 58