BIGลุ้นกำไรสุทธิปีนี้เพิ่ม 87%-ปีหน้า 15%แนะซื้อราคาพื้นฐาน1.45 บ.มีอัพไซด์ 32%
โบรกฯเริ่มสำรวจหุ้นนี้ด้วยคำแนะนำซื้อ คาดว่ากำไรสุทธิปีนี้เพิ่ม 87% และปีหน้า 15% ราคาพื้นฐานเป็น 1.45 บาท ซึ่งประเมินด้วย P/E ปี 58 ที่ 20 เท่า (ให้ต่ำกว่ากลุ่ม) ราคาปิดมีส่วนเพิ่มอีกถึง 32%
บล.ดีบีเอสฯ ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (22 พ.ค.) ว่า บริษัท บิ๊ก คาเมร่า คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BIG จุดเด่นในปี 56 มีส่วนครองตลาดเกิน 50% คาดว่าใน 2-3 ปีข้างหน้าจะมีส่วนครองตลาดมากไปถึง 70-80% เพราะร้านค้าต่างๆทยอยปิด มีสาขามากสุดในไทยถึง 215 สาขา และตั้งอยู่ทั่วประเทศ ตั้งเป้าขยายสาขาใหม่ปีนี้ 10 แห่ง ตามห้างสรรพสินค้าที่เปิดใหม่ๆและได้รับความนิยม จึงเติบโตเร็ว สมัยแรกๆจะเปิดขายที่ ไฮเปอร์ มาร์เก็ต แต่ต่อมาพบว่ายอดขายของสาขาที่มาจากห้างสรรพสินค้าจะดีกว่า จึงอาจมีการปิดสาขายที่ไฮเปอร์ มาร์เก็ต และมาเปิดที่ห้างสรรพสินค้าแทน สินค้าของ BIG จะมีถึงประมาณ 6 พันรายการ หากเป็นกล้องที่ได้รับความนิยมอยู่แล้ว เช่น แคนนอน และนิกคอน จะให้อัตรากำไรไม่มาก แต่ในแบรนด์อื่นๆ เช่น ฟูจิฟิล์ม โซนี่ โอลิมปัสจะให้อัตรากำไรที่ดีกว่า รวมทั้งการให้บริการหลังการขายที่ดีเช่น การฝึกอบรมเทคนิคการถ่ายภาพ การให้ส่วนลดเมื่อซื้ออุปกรณ์เสริม แต่จะไม่เน้นการขายแบบลดราคา
ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/58 ดีมากสวนกระแสกลุ่มพาณิชย์ ซึ่งได้รับผลกระทบจากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ต่ำลง เพราะสินค้าบริษัทเจาะตลาดลูกค้าระดับกลางบน จนถึงสูง กำไรสุทธิเติบโตถึง 102% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนแรงผลักดันมาจากรายได้จากการขายและอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้น ขณะที่สัดส่วนค่าใช้จ่ายขาย-บริหารเทียบกับรายได้ที่ลดลง รายละเอียดตามตารางด้านล่าง
บริษัทยอมให้สต็อคสินค้าเพิ่ม เพื่อสอดคล้องกับกลยุทธ์ อัตราส่วนการหมุนเวียนของสินค้าคงคลัง (Inventory Turnover) 1Q58 เพิ่มเป็น 143 วัน เทียบกับปี 57 ที่ 139 วัน เพราะการวางสินค้าจำหน่ายที่ห้างสรรพสินค้า ควรมีสินค้าหลากหลายให้ลูกค้าเลือก และหากสั่งซื้อในปริมาณมากจะได้ส่วนลดทางการค้า ด้านอัตราส่วนการหมุนเวียนของเจ้าหนี้ (Account Payable Turnover)ไตรมาส1/58 ลดลงเป็น 81 วัน เทียบกับปี 57 ที่ 87 วัน ก็ถือว่ายังอยู่ในระดับที่เหมาะสม
โดยเริ่มสำรวจหุ้นนี้ด้วยคำแนะนำ ซื้อ คาดว่ากำไรสุทธิปีนี้เพิ่ม 87% และปีหน้า 15% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนราคาพื้นฐานเป็น 1.45 บาท ซึ่งประเมินด้วย P/E ปี 58 ที่ 20 เท่า (ให้ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มพาณิชย์ที่ 23 เท่า) ราคาปิดมีส่วนเพิ่มอีกถึง 32% P/E ปี 58 ปัจจุบันเป็น 15.2 เท่า แต่ PEG ต่ำมากเป็น 0.3 เท่า ฐานะการเงินดี อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนปัจจุบันเป็น 0.9 เท่า ส่วนข้อเสียคือ P/BV สูง ปี 58 เป็น 5.5 เท่า และสภาพคล่องการซื้อขาย (free float) น้อย เราประเมินว่าเป็นเพียง 18%