PYLON พื้นฐานดี แต่ราคาเต็มมูลค่ากูรูปรับคำแนะนำถือ รับปันผลเกิน 5%

PYLON แม้แนวโน้มธุรกิจเสาเข็มในระยะยาวยังคงสดใส โดยมีปัจจัยหนุนจากงานภาครัฐจำนวนมากที่จะเกิดขึ้น แต่ความคาดหวังเชิงบวกได้ถูกสะท้อนเข้าไปในราคาหุ้นแล้ว จึงไม่เหลือ Upside ในปีนี้อีก โบรกเกอร์ฯปรับลดคำแนะนำลงจาก ซื้อ เป็น ถือ


บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (29 พ.ค.) ว่า เแม้ภาวะตลาดเสาเข็มในปัจจุบันจะมีงานออกสู่ระบบน้อยลงเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะงานขนาดใหญ่จากภาครัฐ แต่ความสามารถในการแข่งขันและเป็นที่ยอมรับของตลาด ทำให้บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) หรือ PYLON ยังคงรักษาระดับ Backlog ได้สูงถึง 900 ล้านบาท

โดยงานที่รับเข้ามาทั้งหมดเป็นงานเสาเข็มจากภาคเอกชน สำหรับในช่วงที่เหลือของปี PYLON ยังมีโอกาสเข้าไปรับงานเพิ่มเติมอีกหลายโครงการ ไม่ว่าจะเป็นงานเสาเข็มคอนโดมิเนียมใหม่ 6 โครงการของ AP ที่จะเปิดตัวในช่วงไตรมาส 2/58 มูลค่า เฉพาะค่าแรงไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท (PYLON เซ็น MOU กับ AP ในการรับงานเสาเข็มโดยไม่ต้องเปิดประมูล)

รวมไปถึงงานเสาเข็มโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ( หมอชิต-คูคต ) ที่มีความซับซ้อน และต้องใช้ผู้รับเหมางานเสาเข็มหลายรายร่วมกัน และงานเสาเข็มทางแยกถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า จึงคาดว่าปีนี้ PYLON จะสามารถสร้างสถิติกำไรสูงสุดครั้งใหม่ได้อีกครั้ง โดยฝ่ายวิจัยประเมินกำไรสุทธิปีนี้ 229 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% จากปีก่อน

 

แผนการเปิดประมูลโครงการขนาดใหญ่จากภาครัฐที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า ทั้งงานก่อสร้างรถไฟฟ้ารถไฟทางคู่ และถนนมอเตอร์เวย์ ซี่งจะมีการใช้เสาเข็มเจาะจำนวนมากในส่วนทางยกระดับ เช่นเดียวกับกลุ่มทุนรายใหญ่จากภาคเอกชนที่มีแผนเปิดตัวหลายโครงการใหญ่ ถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ประกอบการเสาเข็ม โดยปีนี้ PYLON ได้สั่งซื้อเครื่องจักรใหม่เข้ามาแล้ว 3 ชุด และเตรียมซื้อเพิ่มอีก 1 ชุด

ซึ่งจะทำให้ PYLON มีชุดเจาะเสาเข็มรวมเพิ่มเป็น 21 ชุด ขณะที่บริษัทลูกคือ Excelon ที่ประสบปัญหาขาดทุนจากการรับงานก่อสร้างทั่วไป จะมีการปรับโครงสร้างใหม่ โดยจะชะลอการรับงานใหม่ และ PYLON จะนำผลขาดทุนสะสมของ Excelon ที่มีอยู่ราว 90 ล้านบาท มาใช้ในการบริหารจัดการเรื่องภาษี ซี่งน่าจะช่วยลดภาษีให้กับ PYLON ได้ประมาณ 18 ล้านบาท

 

แม้แนวโน้มธุรกิจในระยะยาวของ PYLON ยังคงสดใสอย่างมาก แต่ราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นตอบรับปัจจัยบวกดังกล่าว โดยปัจจุบันซื้อขายกันที่ PER 16 เท่า ถือว่าค่อนข้างสูงสำหรับบริษัทรับเหมาขนาดเล็ก ฝ่ายวิจัยจึงปรับลดคำแนะนำลงจาก ซื้อ เป็น ถือ โดยประเมิน Fair Value อิง PER 16 เท่า จะได้ราคาเหมาะสม 9.75 บาท และคาดหวังผลตอบแทนจากเงินปันผลปีนี้ได้ 5.13%

Back to top button