EGCO กำไรสุทธิดีเกินคาด-เงินสดเต็มมือแนะซื้ออัพเป้า 280 บาท

บล.บัวหลวง ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(11พ.ค.) ว่า บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO รายงานกำไรสุทธิหลังหักภาษีไตรมาส 1/61 ที่ 2 หมื่นล้านบาททะยานขึ้น 581% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ  1,016% เทียบไตรมาสก่อนหน้า เป็นผลมาจากการขายบริษัทลูกและกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หากไม่นับรวมกำไรพิเศษ กำไรหลักจะอยู่ที่ 2.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 44% เทียบไตรมาสก่อนหน้า กำไรหลักต่ำกว่าที่คาดการณ์ 4% เนื่องจากโรงไฟฟ้า Quezon (โรงไฟฟ้าประเภทถ่านหิน ขนาด 460 เมกะวัตต์ ถือหุ้น 100%) จำหน่ายไฟฟ้าได้ต่ำกว่าที่คาด

ประมาณการกำไรหลักไตรมาส 2/61 ที่ 2.6 พันล้านบาท ลดลง 18% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 23% เทียบไตรมาสก่อนหน้า สาเหตุที่ลดลง เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากกำไรจากบริษัทลูกที่ลดลงหลังจากการขายสินทรัพย์ การเติบโต เทียบไตรมาสก่อนหน้า มาจากการผลิตกระแสไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล,อัตราค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้น,และไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษจากโรงไฟฟ้า Quezon ที่เกิดขึ้นในไตรมาส 1/61

ปรับเพิ่มสมมติฐานค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย และปรับประมาณการกำไรหลักปี 2561-63 ลง 9% ต่อปีมาอยู่ที่ 9.8 พันล้านบาท, 9.1 พันล้านบาท และ 1.0 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ แต่ปรับเพิ่มคาดการณ์ประมาณการกำไรสุทธิหลังหักภาษี ณ ปี 2561 ขึ้นมา 5% มาอยู่ที่ 2.8 หมื่นล้านบาท เนื่องจากกำไรพิเศษที่สูงกว่าคาดในไตรมาส 1/61 และปรับราคาเป้าหมายขึ้น 8% มาอยู่ที่ 280 บาทต่อหุ้น

หลังจากที่ขายบริษัทลูกออกไป EGCO มีเงินสดสูงเกือบ 4.3 หมื่นล้านบาท ในงบดุล (คิดเป็น 81 บาท/หุ้น) ที่จะช่วยหนุนบริษัทตในการเข้าซื้อกิจการหรือจ่ายคืนหนี้สินซึ่งจะเป็นการเพิ่มมูลค่าหุ้น หรือบริษัทฯอาจเลือกที่จะจ่ายเงินปันผลพิเศษ (ปัจจุบัน คาดปันผลปกติจะอยู่ที่ 7 บาทต่อหุ้น ซึ่งอัตราเงินปันผลคิดเป็น 3%) โดยทั้งหมดที่กล่าวมาจะเป็นอัพไซต์ต่อประมาณการของ

นอกจากนี้ EGCO ซื้อขายที่ PER 2561 ที่เพียง 11 เท่า ต่ำสุดในกลุ่มโรงไฟฟ้าที่ วิเคราะห์ จึงมองว่าราคาหุ้นมีความเสี่ยงขาลงที่ค่อนข้างจำกัด ดังนั้น จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2561 ใหม่ที่ 280 บาท