SAT ปรับกำไรปี 61-62 หลังอุตสาหกรรมยานยนต์ฟื้นดันผลงานโตเด่น
SAT ปรับกำไรปี 61-62 หลังอุตสาหกรรมยานยนต์ฟื้นดันผลงานโตเด่น
บล.ฟิลลิป ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(23พ.ค.)ว่า บริษัท สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SAT จากการประชุมนักวิเคราะห์ ทางฝ่ายมีมุมมองบวกต่อผลดำเนินงาน SAT คาดเติบโตดีกว่าครั้งก่อน หลังผู้บริหาร SAT ปรับเพิ่มยอดผลิตรถยนต์ปี 61จากเดิม 2.03 ล้านคัน เป็น 2.10 ล้านคัน บวกกับตัวเลขยอดผลิตรถยนต์ช่วง 4M61 ออกมาส่งสัญญาณฟื้นตัว โต 11.3% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน แตะระดับ 6.74 แสนคัน
ขณะที่อุตสาหกรรมเครื่องจักรกลการเกษตรยังโตดีเช่นกัน สะท้อนจากช่วง ไตรมาส1/61 SAT มียอดผลิตเครื่องจักรกลการเกษตรอยู่ที่ 18,000 คัน เติบโต 24% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ในแง่ของผลดำเนินงาน SAT ยังมีปัจจัยบวกจากยอดคำสั่งซื้อลูกค้าใหม่ GKN ที่เริ่มเข้ามาแล้วช่วง ไตรมาส1/61 และคาดเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วง 2H61 ผลักดันยอดทั้งปีราว 300 ลบ. รวมถึงยอดขาย Axle shaft สำหรับ Big truck ที่คาดจะมียอดในช่วง 2Q61 (ยอดขายทั้งปี 60-70 ลบ.) ซึ่งคาดช่วยชดเชยยอดขายที่หายไปบางส่วนหลังโอนธุรกิจสปริง (BSK) ซึ่งเดิมเป็น บ.ย่อย (สัดส่วนยอดขาย 13% ของยอดรวม) ออกไปตั้งบริษัทร่วมทุนกับ MUBEA Engineering AG
เพื่อสะท้อนแนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ส่งสัญญาณฟื้นตัวชัดเจนจากยอดผลิตรถยนต์ช่วง ไตรมาส1/61 เติบโต 11.1% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และยอดผลิตรถยนต์เดือน เม.ย. 61 ล่าสุดที่ออกมายังเติบโต 11.9% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ตลอดจนผลดำเนินงานของ SAT ช่วง ไตรมาส1/61 ออกมาดีกว่าคาด หลักๆ จาก GPM ที่ปรับตัวดีขึ้นจากช่วง 1Q60 ที่ 15.9% มาอยู่ที่ 18.2% ทางฝ่ายจึงปรับประมาณการกำไรปกติปี 61-62 เพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 6.1% โดยยังคงประมาณการยอดขายรวมคาดลดลง 8.6% y-y แต่เพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นจาก U-Rate ที่ดีขึ้น หลังตัดธุรกิจสปริง (BSK) ซึ่งมีอัตราทำกำไรและ U-Rate ที่ต่ำออกไป ตลอดจน SG&A/Sales คาดลดลงจากการคุมต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และเมื่อรวมกับค่าใช้จ่ายทางการเงินที่ลดลงหลังบริษัทชำระหนี้ต่อเนื่อง ทำให้ปี 61 คาด SAT มีกำไรปกติเท่ากับ 850 ล้านบาท เติบโต 26.9% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน
ด้วยแนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ฟื้นตัว บวกกับรับรู้ผลกระทบเชิงบวกจาก Margin Expansion หลังตัดธุรกิจสปริง (BSK) ซึ่งมีอัตราทำกำไรต่ำออกไป ทางฝ่ายจึงปรับประมาณการกำไรขึ้น และประเมินราคาพื้นฐานปี 61 ใหม่ที่ 24.00 บาท อิง P/E 12 เท่า คงคำแนะนำ “ทยอยซื้อ”