MCS Backlog เยอะเกินห้ามใจUpside เพิ่ม หลังงานเข้าเพียบ
MCS ประกาศรับงานใหม่เพิ่มอีก 1 แสนตัน หนุนให้ยอด Backlog ขณะนี้ทะลักเป็น 2.5 แสนตัน าเหนือความคาดหมายเป็นอย่างมาก โบรกฯปรับประมาณการกำไรตั้งแต่ปี 2558-60 ขึ้น
บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (4 มิ.ย.) ว่า ผู้บริหารของบริษัท เอ็ม.ซี.เอส.สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ MCS เปิดเผยว่า บริษัทได้รับคำสั่งซื้อโครงสร้างเหล็กจากลูกค้าญี่ปุ่นเพิ่มอีก 1 แสนตัน หนุนให้ยอด Backlog ขณะนี้พุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ยิ่งขึ้นไปอีกเป็น 2.5 แสนตัน ซึ่งสามารถรองรับรายได้ให้กับ MCS ไปตลอด 5 ปีข้างหน้า ยังไม่นับรวมงานจากโอลิมปิกที่คาดว่าจะเริ่มเปิดประมูลในช่วงปลายปี 2559
ฝ่ายวิจัยคาดว่า MCS มีโอกาสได้รับงานค่อนข้างสูง เนื่องจากผู้รับเหมาที่จะเข้าร่วมประมูล ต่างเป็นลูกค้ารายใหญ่ของ MCS ไม่ว่าจะเป็น Kajima, Takenaka, Shimizu และ Obayashi ส่วนแผนการผลิตในช่วง 5 ปีข้างหน้า
ทั้งนี้เชื่อว่า MCS จะต้องใช้กำลังการผลิตในต่างประเทศเข้ามาช่วยมากขึ้น ทั้งในส่วนของ MCS Steel-Xiamen และบริษัทที่ไปร่วมทุนกับ POSCO (อยู่ในช่วงการลงทุน คาดจะมีกำลังการผลิตเฟสแรก 2 หมื่นตัน/ปี) เนื่องจากข้อจำกัด เกี่ยวกับจำนวนช่างเชื่อม ทำให้กำลังการผลิตของ MCS ในไทยไม่สามารถทำได้ตาม Design Capacity ที่ 7 หมื่นตัน/ปี โดยฝ่ายวิจัยคาดว่ากำลังการผลิตจริงในไทย ณ ตอนนี้น่าจะอยู่ที่บริเวณ 6 หมื่นตัน/ปี หรือต่ำกว่า ซึ่งอาจไม่เพียงพอต่องานในอนาคตที่จะเข้ามาอย่างหนาแน่น
ฝ่ายวิจัยปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2558-60 ขึ้นราว 14% จากประมาณการก่อนหน้า หลักๆ มาจาก 1) ปรับเพิ่มปริมาณการส่งออกโครงสร้างเหล็กปี 2558 เพิ่มขึ้นเป็น 43,000 ตัน ส่วนปี 2559 และ 2560 ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 48,000 ตัน และ 50,000 ตัน ตามลำดับ 2) จากความต้องการใช้เหล็กในประเทศญี่ปุ่นที่ฟื้นตัวตามภาคก่อสร้าง ประกอบกับงานที่รับเข้ามาใหม่มีความยากของงานมากขึ้นจึงปรับราคาขายโครงสร้างเหล็กเฉลี่ย 3 ปีข้างหน้าเป็น 2.3 แสนเยน/ตัน และ 3) ปรับลดสมมติฐาน SG&A/Sales ลงจากเดิม 18% เหลือ 16%
ประเมินมูลค่าพื้นฐานปี 2558 โดยอิง PER 12 เท่า ได้ราคาเหมาะสมที่ 11.33 บาท มี Upside เพิ่มขึ้นเป็น 21.8% เมื่อประกอบกับประเด็นบวกที่เข้ามาใหม่จากการคว้างานเพิ่มเข้ามาเป็นจำนวนมาก จึงทำให้ปรับคำแนะนำกลับมาเป็น “ซื้อ” อีกครั้ง