BCPกลับมาส่องประกายเหนือคู่แข่งใน 2Q58แนะซื้อมีลุ้นเติบโตจากแผนลงทุนในทุกธุรกิจ

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(4 มิ.ย.) ว่า ค่าการกลั่นอ้างอิงสิงคโปร์เฉลี่ยไตรมาส 2/58 ถึงปัจจุบันที่ 8.00 เหรียญ (-6.1%ไตรมาสก่อนหน้า) ถือว่าแกร่งกว่าที่คาด หนุนโดยส่วนต่างราคาน้ำมันเบนซินที่ปรับเพิ่มขึ้น 18.8%ไตรมาสก่อนหน้าอย่างไรก็ตามโรงกลั่นในประเทศไทยส่วนใหญ่มีสัดส่วนน้ำมันขั้นกลาง (ได้แก่ น้ำมันดีเซลและน้ำมันเครื่องบินที่มีส่วนต่างราคาลดลง 2.2 และ 3.3% ตามลำดับ) มากกว่า เราจึงคาดการกลั่นของโรงกลั่นไทยส่วนใหญ่ใน ไตรมาส2/58 จะลดลงไตรมาสก่อนหน้ามากกว่าค่าการกลั่นสิงคโปร์

ทั้งนี้คาดค่าการกลั่น ไตรมาส 2/58 ถึงปัจจุบันของ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)  หรือ BCP ไว้ที่ 8.8 เหรียญต่อบาร์เรล (-10%ไตรมาสก่อนหน้า) ลดน้อยกว่าคู่แข่งที่ถูกกระทบมากกว่า จากสัดส่วนน้ำมันเบนซินที่น้อย (BCP 20% เทียบกับโรงกลั่นอื่นที่มีสัดส่วนดังกล่าว 5-19%) ความสูญเสียจากการผลิตและ Crude premium ที่เพิ่มมากกว่า

หากประเมินค่าการกลั่นรวมผลจากสต๊อกน้ำมัน จากราคาน้ำมันปัจจุบันที่ 63.36 เหรียญต่อบาร์เรล หากคงที่ไปถึงสิ้น ไตรมาส2/58 จะทำให้มีผลบวกจากสต๊อกน้ำมัน ~2-3 เหรียญต่อบาร์เรล ทั้งนี้ยังอาจเร็วเกินไปที่จะคาดหวังกำไรจากราคาน้ำมัน บนสมมติฐานไม่มีผลกระทบจากขาดทุนสต๊อกน้ำมัน BCP ที่มีผลขาดทุนสต๊อกรวม LCM 5.5 เหรียญต่อบาร์เรลใน ไตรมาส1/58 จะยังเด่นกว่าจากฐานต่ำเทียบกับคู่แข่งที่มีผลขาดทุน -0.7 จนถึงมีกำไรจากสต๊อก 1.2 เหรียญต่อบาร์เรลใน ไตรมาส1/58 บนสมมติฐานค่าการกลั่นระมัดระวังที่ 8.8 เหรียญต่อบาร์เรล ปริมาณน้ำมันดิบเข้ากลั่น 109 KBD ทรงตัวจากไตรมาสก่อน เราคาดผลประกอบการ ไตรมาส2/58 ของ BCP จะมีกำไรสุทธิ ~1,700 ล้านบาท (+63%ไตรมาสก่อนหน้า) 

ยังคงแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย SOTP ที่ 37 บาทจาก Valuation ที่ถูกกว่าด้วย PER 9.4 เท่า และ PBV 1.3 เท่า แต่มี ROE ที่สูงถึง 13.8% ในกลุ่มโรงกลั่นเรายังชอบ BCP จากการกระจายธุรกิจไปสู่ธุรกิจการตลาดและโซล่าร์ฟาร์ม และมีแผนเติบโตในทุกด้าน