ITEL ลุ้นกำไร 3 ข้างหน้าโตเฉลี่ย 19% แนะ”ซื้อ”เป้าหมาย 5.60 บาท
ITEL ลุ้นกำไร 3 ข้างหน้าโตเฉลี่ย 19% แนะ"ซื้อ"เป้าหมาย 5.60 บาท
บล. บัวหลวง ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(12ก.ย.) บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ITEL เป็นบริษัทที่เติบโตไปพร้อมกับ การเข้าสู่ยุคดิจิตัล (Digitalization) ซึ่งบริษัทเป็นเจ้าของโครงข่าย Fiber Optic ซึ่งเป็น “โครงสร้างพื้นฐาน” ที่ข้อมูลดิจิตัลต้องวิ่งผ่าน ปัจจัยหนุนการเติบโตต่อไปจะมาจาก 1) การใช้งานโครงข่ายที่เพิ่มขึ้น 2) Genesis data center จะหยุดถ่วงงบ ในมุม Valuation ปัจจุบันหุ้นเทรด PE ปี 19 ที่ 19.9 เท่า บนสมมุติฐานไม่รวม USO เฟส2 หากบริษัทได้รับสัญญา USO เพิ่ม 1 หรือ 2 สัญญา จะทำให้ PE ลดลงเหลือ 16 และ 14 เท่า และการเติบโตเพิ่มเป็น 26% และ 36% ตามลำดับ “ซื้อ”
การเข้ามาของ Internet of things (IOT) ส่งผลให้การใช้งาน Data เพิ่มขึ้นมาโดยตลอด ทั้งลูกค้าบุคคลและองค์กร จาก Figure4-5 เห็นว่า E-commerce, Digital banking และ จำนวนผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ต เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้โครงข่ายฯ มีลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น และมี Utilization rate เพิ่มจาก 22% ปี 2017 มาเป็น 27% ในปัจจุบัน และมีรายได้เติบโตต่อเนื่องราว 25-30%/ปี ด้วยเทรนด์ของ Digitalization และกลยุทธ์การสร้างตลาดใหม่กับลูกค้าองค์กรขนาดกลาง จะช่วยให้ ITEL จะสร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง (เพราะผู้เล่นรายใหญ่ จะเน้นลูกค้ารายใหญ่)
รายได้ส่วน Recurring service ของโครงการอินเตอร์เน็ตชายขอบ (USO) เฟส 1 จะเริ่มรับรู้ปลายเดือนนี้ หนุนรายได้เพิ่มปีละ 200 ล้านบาท ต่อเนื่องไปอีก 5 ปี ซึ่งรายได้ Data service เติบโตเป็น 700 (+36%) และ 1,000 (+43%) ล้านบาท ในปี 2018-19 ตามลำดับ นอกจากนี้งานอินเตอร์เน็ตชายขอบ เฟส 2 คาดจะออกมาใหญ่กว่า เฟส 1 เป็นเท่าตัว โดยมูลค่ารวม 2 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น 8 สัญญา ซึ่ง ITEL เป็นตัวเต็งในการเข้ารับงาน เพราะมีความได้เปรียบด้านต้นทุนจากการทำงาน เฟส 1 อยู่แล้ว ซึ่งงานน่าจะออกมาช่วง กย.-ตค. นี้
Genesis data center จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหนุนผลประกอบการที่สำคัญ เพราะผลขาดทุนปีละ 20 ล้านบาท จะหายไป เพราะบริษัทได้ธนาคารแห่งหนึ่งเข้ามาเป็นลูกค้า โดยธนาคารแห่งนี้จะใช้ Occupancy rate ขึ้นมาเป็น 33% ในสิ้นปีนี้ และยังมีหน่วยงานราชการอีกแห่งที่จะเข้าใช้บริการอีกราว 7% จะช่วยให้ Genesis ถึง break-even ที่ 40% ได้ และไม่ถ่วงงบอีก
ภายใต้สมมุติฐานอนุรักษ์นิยม (ไม่รวมงาน USO ที่จะประมูลเพิ่ม) คาดกำไรปี 2018-20 ที่ 136 – 161 – 192 ล้านบาท โตเฉลี่ย 19%/ปี (CAGR 2018-20) และหากบริษัทได้งาน USO เข้ามาเพิ่ม จะช่วยหนุนให้เห็นภาพผลประกอบการ 3 ปี ข้างหน้าอย่างชัดเจน โดยทำ Scenario analysis เป็น 2 กรณี 1) ได้ USO เพิ่ม 1 สัญญา คาดกำไรจะโตเฉลี่ย 26%/ปี (CAGR 2018-20) คาดกำไรที่ 192 และ 215 ในปี 2019-20 2) ได้ USO เพิ่ม 2 สัญญา คาดกำไรจะโตเฉลี่ย 36%/ปี (CAGR 2018-20) คาดกำไรที่ 215 และ 250 ในปี 2019-20