MINT น่าดึงดูดใจต่อการเข้าลงทุนแนะซื้อมองหุ้นถูกหากเทียบกับหุ้นในกลุ่มเดียวกัน
MINTโบรกฯคงคำแนะนำซื้อกำหนดราคาพื้นฐานเป็น 37.50 บาท ซึ่งถือว่าถูกที่สุดเทียบกับหลักทรัพย์ในกลุ่มเดียวกันที่มี P/E เฉลี่ยเป็น 28 เท่า ชอบปัจจัยพื้นฐานบริษัทในประเด็นการมีธุรกิจหลากหลายช่วยกระจายความเสี่ยง และมีแผนธุรกิจในเชิงรุกเพื่อการเติบโตในอนาคต
บล.ดีบีเอสฯ ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (19 มิ.ย.) ว่า บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT ทั้งเดือน เม.ย.และพ.ค.58 รายได้เฉลี่ยต่อห้อง (RevPar) ที่เฉพาะเป็นส่วนบริษัท (orgarnic) เติบโตดีพอใช้คือ 8% เป็น 3,900 บาท แต่หากเป็นยอดรวมอยู่ในเกณฑ์ทรงตัว สาเหตุเพราะอัตราค่าเช่าห้องโรงแรมเฉลี่ย (ADR)ลดลง 12% เป็น 5,800 บาท ซึ่งโรงแรม Sun International มีอัตราค่าเช่าที่ต่ำกว่าเป็นตัวดึงลง
ขณะที่อัตราการเข้าเช่า (AOR) ที่เป็นโรงแรมของบริษัทเพิ่มขึ้น 7% เป็น 62% สำหรับเม.ย.และพ.ค.58 โดยโรงแรมที่กรุงเทพฯมีการฟื้นตัวของ RevPar มากสุด เพิ่มถึง 44% ขณะที่ธุรกิจอาหารมีอัตราการเติบโตทั้งหมด (TSSG) ที่ 12% แม้ว่าอัตราการเติบโตสาขาเดิม (SSSG) ทรงตัว ซึ่งเกิดขึ้นจากการขยายสาขาในเชิงรุก สำหรับธุรกิจอาหารในไทย ซึ่งเป็นสัดส่วนมากสุด 70% มี TSSG แข็งแกร่งเป็น 12%
ฝ่ายบริหารบริษัทคาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตเฉลี่ย CAGR ในรอบ 5 ปีข้างหน้าเป็น 15-20% ด้านเงินลงทุนที่จะใช้ 5 ปีข้างหน้าอยู่ที่ประมาณ 30-32 พันล้านบาท โดยมีการใช้เงินประมาณ 22-24 พันล้านบาท สำหรับการซื้อกิจการ เราคาดว่าบริษัทจะมีเงินเพียงพอในการนี้ ด้วยการใช้เงินภายในบริษัทและการกู้เพิ่ม โดยงบดุลยังสนับสนุน เพราะมีอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนเป็นเพียง 1 เท่า คาดว่าในอนาคตรายได้จากต่างประเทศจะเพิ่มสัดส่วนรายได้มากขึ้นเป็น 48% จากปัจจุบันที่ 39% สำหรับธุรกิจโครงการใหม่อสังหาริมทรัพย์ยังคงดำเนินการเป็นไปตามแผน และเป็นการรับประกันรายได้ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
คงคำแนะนำ ซื้อ กำหนดราคาพื้นฐานเป็น 37.50 บาท ซึ่งประเมินด้วยวิธี DCF (WACC 8.8%, terminal growth 2%) ด้าน P/E ปี 58 เป็น 24 เท่า ถือว่าถูกที่สุดเทียบกับหลักทรัพย์ในกลุ่มเดียวกันที่มี P/E เฉลี่ยเป็น 28 เท่า ชอบปัจจัยพื้นฐานบริษัทในประเด็นการมีธุรกิจหลากหลายช่วยกระจายความเสี่ยง และมีแผนธุรกิจในเชิงรุกเพื่อการเติบโตในอนาคต