ADVANC คาดงบ 2Q58 ลดลงตามฤดูกาลแต่โบรกฯยังแนะซื้อราคาเป้าหมาย 285 บาท
ADVANC คาดไตรมาส 2/58 กำไรปรับตัวลดลงตามฤดูกาลโดย ช่วงต้นไตรมาส 2 กสทช.ประกาศให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์จัดเก็บข้อมูลรายละเอียดของผู้ใช้บริการแบบเติมเงินซึ่งส่งผลให้จำนวนผู้ที่จะเปิดใช้บริการในช่วง ไตรมาส2/58 ปรับตัวลดลงจากไตรมาสก่อน นอกจากนี้ช่วงไตรมาส 2 โดยปกติจะเป็น Low-season ของบริษัท ทำให้มีแนวโน้มที่รายได้และกำไรสุทธิปรับตัวลดลง คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 285 บาท
บล.โกลเบล็ก ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (24 มิ.ย.) ว่า บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC คาดไตรมาส 2/58 กำไรปรับตัวลดลงตามฤดูกาล ช่วงต้นไตรมาส 2 กสทช.ประกาศให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์จัดเก็บข้อมูลรายละเอียดของผู้ใช้บริการแบบเติมเงินซึ่งส่งผลให้จำนวนผู้ที่จะเปิดใช้บริการในช่วง ไตรมาส2/58 ปรับตัวลดลงจากไตรมาสก่อน
นอกจากนี้ช่วงไตรมาส 2 โดยปกติจะเป็น Low-season ของบริษัท ทำให้มีแนวโน้มที่รายได้และกำไรสุทธิปรับตัวลดลง โดยในส่วนของค่าใช้จ่ายทางด้านการตลาดมีแนวโน้มสูงขึ้นหลังจากบริษัทมีแคมเปญใหม่ที่จะต้องโปรโมทเช่น iSwap และค่าเสื่อมที่เพิ่มขึ้นจากการลงทุนในโครงข่ายที่มากขึ้น จากประเด็นดังกล่าวทำให้คาดว่า ไตรมาส2/58 ผลการดำเนินงานปรับตัวลดลง เทียบไตรมาสก่อนหน้าและทรงตัว เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน
ถึงแม้เราคาดว่าไตรมาส 2 ผลการดำเนินงานจะปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตามผลการดำเนินงานของบริษัทมีแนวโน้มฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังปี58 หลังจากพ้นช่วง Low-season รวมถึงค่าใช้จ่าย Regulatory Cost ที่มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องจากการย้ายผู้ใช้บริการมาเป็น 3G ที่มากขึ้น อีกทั้งกลยุทธ์ Market-penetration ที่ยังใช้ได้ดีอยู่และเตรียมที่จะขยายฐานมาสู่ผู้ใช้ระดับล่างโดยใช้ โทรศัพท์ 3G รุ่น OLA ทำให้แนวโน้มรายได้ Non-Voice มีโอกาสที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงคงประมาณการกำไรสุทธิปี 58 ที่ 38,087 ล้านบาท เติบโต 6%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน
หลังจากที่กสทช. จะมีการประมูลคลื่น 4G ในช่วงไตรมาส 4 จะเป็นปัจจัยหนุนให้กับบริษัทอย่างมาก เนื่องจากปัจจุบันการใช้งานคลื่นความถี่ของบริษัทค่อนข้างเต็มทำให้บริษัทไม่สามารถรองรับการให้บริการ 4G ได้ ซึ่งเราคาดว่าหากบริษัทสามารถชนะการประมูลได้และมีบริการ 4G เพิ่มเข้ามาจะทำให้มีผู้ใช้บริการมากขึ้นและจะทำให้รายได้เติบโตขึ้นตาม เนื่องจากปัจจุบัน ADVANC เป็นผู้ให้บริการเพียงรายเดียวที่ไม่มีบริการ 4G ทั้งนี้บริษัทมีความเสี่ยงหากไม่สามารถชนะการประมูลได้
จากการคาดการณ์ว่า ไตรมาส2/58 จะเป็นจุดต่ำสุดของบริษัทและแนวโน้มการฟื้นตัวช่วงครึ่งปีหลังสูงทำให้บริษัทยังคงน่าสนใจ โดยมูลค่าเหมาะสมซึ่งประเมินจากวิธี FCF (WACC ที่ 9% และ Terminal Growth ที่ 0.5%) ได้เท่ากับ 285 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาปิดปัจจุบัน ดังนั้น เราจึงแนะนำ “ซื้อ”