ROJNA ลุ้นกำไรไตรมาส 2/58 สดใสตามรายได้จากนิคมฯและไฟฟ้าเพิ่มขึ้น
ROJNA คาดการณ์กำไรไตรมาส 2/58 ดีขึ้น เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็น 123 ล้านบาท เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิเพียง 52 ล้านบาท เพราะรายได้จากนิคมฯและไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 202% และ 8% ตามลำดับ อีกทั้งได้มีการนำ TICON มาจัดทำงบรวมด้วย หลังจากได้เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นเป็น 43% ทำให้รายได้จากการให้บริการและค่าเช่าเพิ่มขึ้นในอัตรา 120% และ 1,529% คงคำแนะนำ ถือ แต่ปรับราคาพื้นฐานลงมา ตามการปรับประมาณการลง ราคาพื้นฐานใหม่มีส่วนเพิ่มเพียง 5%
บล.ดีบีเอสฯ ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (3 ก.ค.) ว่า บริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) หรือ ROJNA คาดการณ์กำไรไตรมาส2/58 สดใสเทียบ เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็น 123 ล้านบาท เทียบกับ เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิเพียง 52 ล้านบาท เพราะรายได้จากนิคมฯและไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 202% และ 8% ตามลำดับ
อีกทั้งได้มีการนำ TICON มาจัดทำงบรวมด้วย หลังจากได้เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นเป็น 43% ทำให้รายได้จากการให้บริการและค่าเช่าเพิ่มขึ้นในอัตรา 120% และ 1,529% ตามลำดับ อย่างไรก็ตามค่าใช้จ่ายขาย-บริหารและดอกเบี้ยจ่ายก็เพิ่มขึ้นในอัตรา 152% และ 109% ตามลำดับเช่นกัน ทั้งนี้คาดว่าใน ไตรมาส2/58 มีการโอนนิคมฯอยู่ 400 ไร่ และอัตราการใช้กำลังการผลิตไฟฟ้าเกือบ 100% และสามารถกล่าวได้ว่าฐานกำไร เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่นำมาเทียบนั้นต่ำผิดปกติ คือโอนนิคมฯน้อย และธุรกิจไฟฟ้ายังไม่ฟื้นตัว
แต่กำไรไตรมาส2/58 จะลดลงถึง 73% เทียบไตรมาสก่อนหน้าเนื่องจากรายได้จากการขายที่ดินลดลง 33% แม้การโอนนิคมฯเพิ่มขึ้นเป็น 400 ไร่ สูงกว่า เทียบไตรมาสก่อนหน้าที่โอน 300 ไร่ แต่ฐาน ไตรมาส1/58 มีการขายที่ดินเปล่ารัตนาธิเบศร์ บันทึกรายได้เป็นจำนวนมากประมาณ 640 ล้านบาท ซึ่งเป็นสัดส่วน 59% จากรายได้ขายที่ดินทั้งหมด และปกติอัตรากำไรขั้นต้นการขายที่ดินเปล่านั้นจะสูงกว่านิคมฯ ส่วนรายได้ไฟฟ้าและรายได้จาก TICON ไม่แตกต่างจาก เทียบไตรมาสก่อนหน้านัก เพราะเริ่มนำ TICON มาจัดทำงบรวมตั้งแต่ ไตรมาส1/58 แล้ว
แต่แนวโน้มกำไรครึ่งหลังปี 58 อ่อนลง เพราะเหลือโอนนิคมฯเพียง 200 ไร่ จากสิ้นไตรมาส1/58 มียอดขายรอโอน (Backlog) ที่ 600 ไร่ คิดเป็นสัดส่วนกำไร ครึ่งหลังปี 58 44% ของกำไรทั้งปี 58 ขณะที่กำไรในงวดไตรมาส1/58 มากที่สุดในปี 58 คือเป็นสัดส่วนถึง 44% ของทั้งปีแล้ว สืบเนื่องจากมีการขายที่ดินเปล่าตามที่กล่าวไว้ข้างต้น และฐานกำไรครึ่งหลังปี 57 ปีที่แล้วสูงผิดปกติ เพราะมีการโอนนิคมให้ Honda เป็นจำนวนมาก
คาดว่ากำไรต่อหุ้นปีนี้เติบโตดี แต่ปีหน้าไม่สดใส ประเมินกำไรสุทธิต่อหุ้นตลอดปีนี้เติบโต 21% แต่ปีหน้ากลับจะลดลงถึง 23% เมื่อเทียบกับ เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนสาเหตุที่ปีนี้เติบโตดี เนื่องจาก ณ สิ้นปี 57 มี Backlog รอโอนถึง 900 ไร่ แต่เมื่อรับรู้รายได้ปีนี้ไปมากแล้ว ขณะที่การขายปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 500-600 ไร่ เราจึงคาดว่า Backlog ณ สิ้นปี 58 ไปรับรู้รายได้ปี 59 จะเป็นเพียง 243 ไร่ ซึ่งเป็นเฉพาะส่วนที่จะรับรู้รายได้ทันในปี 59 แต่ส่วน Backlog ของนิคมใหม่คือ ชลบุรี กว่าจะเริ่มโอนได้จะเป็นปี 60-61 มากกว่า เพราะต้องรอการก่อสร้างสาธารณูปโภคให้แล้วเสร็จ
คาด TICON จะทำให้ ROJNA ต้องใช้เงินลงทุนเพิ่มตามมา แม้การนำ TICON มาทำงบรวมจะทำให้รายได้เพิ่มขึ้น แต่ค่าใช้จ่ายและดอกเบี้ยจ่ายก็เพิ่มตามมา ณ สิ้น ไตรมาส1/58 เงินกู้ ROJNA เพิ่มขึ้นเป็น 41 พันล้านบาท เมื่อเริ่มนำงบ TICON มารวม เทียบกับสิ้นปี 58 ที่ 23 พันล้านบาท ขณะที่ TICON อยู่ในช่วงการลงทุนจำนวนมาก แต่ทำกำไรทำได้น้อย อัตราการเข้าเช่า (OR) เป็นเพียง 58-60% การที่ ROJNA ถือหุ้นเพิ่ม อาจสร้างภาระการลงทุนเพิ่มจำนวนมากตามมาได้ ปัจจุบัน TICON ก็ไปลงทุนเพิ่มที่อินโดนีเซียด้วย ขณะที่ณ สิ้น ไตรมาส1/58 อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุน ROJNA สูงถึง 3.1 เท่าแล้ว
คงคำแนะนำถือ แต่ปรับราคาพื้นฐานใหม่ลงมาเป็น 7.74 บาท (ประเมินด้วย P/E ปี 58 ที่ 16 เท่า) ตามการปรับประมาณการลงปีนี้และปีหน้าในอัตรา 8% และ 15% ตามลำดับ หลังจากการนำงบ TICON มาจัดทำงบรวมกับ ROJNA ราคาพื้นฐานใหม่มีส่วนเพิ่มเพียง 5% ข้อดีของ ROJNA คือ 1) ยังมีที่ดินเปล่าที่สุขุมวิทอีก 1 แปลงซึ่งซื้อมาที่ต้นทุนต่ำ ทางบริษัทยังไม่คิดจะพัฒนาในปีนี้ แต่มีผู้สนใจมาซื้อต่ออยู่บ้าง ซึ่งในประมาณการมีสมมุติฐานยังไม่ขายออกไป และ 2) ธุรกิจไฟฟ้าโซล่าที่มีอยู่ 3 บล็อค ในจำนวน 24 MW ปัจจุบันสร้างกำไรได้ดี ตกเดือนละ 20 ล้านบาท