TISCO เผยกำไร Q2/58 ขยับขึ้นเล็กน้อยโบรกฯ แนะ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมาย 52 บ.
บล.ธนชาต ระบุว่า TISCO รายงานกำไรอ่อนแอกว่าคาดที่ 1 พันลบ. เพิ่มขึ้น 1% จากปีก่อนจากการตั้งสำรองที่สูงกว่าคาด แต่มองว่าการเพิ่มขึ้นอย่างมากของการตั้งสำรองก็เป็นการเพิ่มขึ้นเพียงครั้งเดียว ขณะที่การเพิ่มขึ้นของ NPL เป็นเพียงผลของปัจจัยฤดูกาลยังคง แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 52 บาท/หุ้น
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (14 ก.ค.) ว่า บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO รายงานกำไรอ่อนแอกว่าคาดที่ 1 พันลบ. เพิ่มขึ้น 1% จากปีก่อนแต่ลดลง 16% จากไตรมาสก่อนเนื่องจากการตั้งสำรองที่สูงกว่าคาด กำไรครึ่งปีแรก คิดเป็น 47% ของประมาณการทั้งปี เนื่องจากกำไรต่ำกว่าคาดเล็กน้อย จึงคงประมาณการและราคาเป้าหมายเช่นเดิม
โดยผลการดำเนินงานที่อ่อนแอ มีสาเหตุจากการตั้งสำรองพิเศษคาดราว 300 ลบ. ในไตรมาสนี้ หากบวกกลับรายการพิเศษนี้ กำไรน่าจะอยู่ที่ 1.2 พันลบ. และกำไรครึ่งปีแรกจะคิดเป็น 52% ของประมาณการทั้งปี
ขณะที่กำไรก่อนตั้งสำรองอยู่ที่ 2.5 พันลบ. เพิ่มขึ้น 2% จากปีก่อนและ 1% จากไตรมาสก่อนและดีกว่าที่คาดเล็กน้อย เนื่องจากค่าใช้จ่ายที่ลดลง สำหรับอัตราการเติบโตของสินเชื่อหดตัวลง 2% จากไตรมาสก่อนเนื่องจากสินเชื่อเช่าซื้อลดลง 2.5% อัตราการเติบโตจากต้นปีถึงปัจจุบันอยู่ที่ -5% เทียบกับประมาณการทั้งปีที่ -3%
ขณะที่รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเติบโต 3% จากปีก่อนและ 2% จากไตรมาสก่อน เนื่องจาก NIM ที่ขยายตัวดีราว 17bp จากไตรมาสก่อนและ 40bp จากปีก่อนจากต้นทุนเงินฝากที่ลดลง และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 4% จากปีก่อนผลักดันโดยการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียม 4% จากค่าธรรมเนียมกองทุนรวม และวานิชธนกิจที่สูงขึ้นเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของ NPLs ในกลุ่มสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์จากการชำระเงินที่ล่าช้าตามฤดูกาลเพราะเป็นวันหยุดยาว NPL จึงเพิ่มขึ้น 6% จากไตรมาสก่อนด้วยการเติบโตของสินเชื่อที่เป็นลบ NPL ratio จึงเพิ่มขึ้นเป็น 2.86% จาก 2.65% ในไตรมาส 1/58
ค่าใช้จ่ายตั้งสำรองเพิ่มขึ้น 2% จากปีก่อนและ 26% จากไตรมาสก่อนซึ่งมีสาเหตุหลักจากการตั้งสำรองพิเศษ 300 ลบ. LLR เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 107%
ทั้งนี้คาดว่าการเพิ่มขึ้นของ NPL เป็นเพียงผลของปัจจัยฤดูกาล ขณะที่การเพิ่มขึ้นอย่างมากของการตั้งสำรองก็เป็นการเพิ่มขึ้นเพียงครั้งเดียว ยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 52 บาท/หุ้น