MCS แนวโน้มผลประกอบการปีนี้แข็งแกร่งกูรูแนะสะสม เป้า 11.33 บ. Upside 19.9%

บล.เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ระบุว่า แนวโน้มผลประกอบการของ MCS ปีนี้แข็งแกร่ง เป็นโอกาสซื้อสะสมช่วงหุ้นปรับลดลง ได้ราคาเหมาะสมที่ 11.33 บาท มี Upside สูง 19.9%


บล.เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ระบุในบทวิเคราะห์ (21 ก.ค.) ว่าคาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/58 ของ บริษัท เอ็ม.ซี.เอส.สตีล จำกัด (มหาชน)หรือ MCS ที่ 138 ล้านบาท แม้จะปรับลดลง 28%จากไตรมาสก่อนเนื่องจากเป็นการเทียบกับไตรมาส 1/58 ที่เป็นจุดสูงสุดของปี แต่ถือเป็นการ Turnaround แรง หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีผลขาดทุนสุทธิ 23 ล้านบาท โดยคาดน้ำหนักการส่งมอบโครงสร้างเหล็กให้กับลูกค้าญี่ปุ่นในไตรมาส 2/58 จะอยู่ที่ระดับ 11,800 ตัน ปรับลดลงลง 11%จากไตรมาสก่อนแต่ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี และมากกว่าแผนการส่งออกเดิมที่วางไว้ที่ระดับ 9,000-10,000 ตัน

ขณะที่ราคาขายเฉลี่ยโครงสร้างเหล็กคาดว่าจะยังทรงตัวในระดับสูง 2.35 แสนเยน/ตัน เนื่องจากยังมีงานต่อเนื่องจากไตรมาส 1/58 บางโครงการที่มีความยากของงาน จึงมีราคาขายสูงกว่าปกติ ด้าน GrossMargin ในไตรมาส 2/58 เชื่อว่าจะปรับลดลงเหลือ 32% เทียบกับที่ทำได้สูงถึง 36.6% ในไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลจากปริมาณการผลิตที่ลดลงในไตรมาส1/58 ทำให้ต้นทุนคงที่ต่อหน่วย (Fixed Cost) ของงานที่มาส่งมอบในไตรมาส 2/58 ปรับเพิ่มขึ้นตามแผนการส่งออกโครงสร้างเหล็กของ MCS ล่าสุด คาดว่าจะมีการส่งออกเหล็กจากโรงงานในไทยไปให้กับลูกค้าญี่ปุ่นในไตรมาส 3/58 ราว 7,000 ตัน และจะมีการว่าจ้าง MCS Steel (Xiamen) ที่จีนผลิตและส่งออกราว 4,000 ตัน ทำให้ในแง่ของปริมาณการขายโดยรวมอาจจะไม่ได้ปรับลงมากนักแต่เนื่องจากงานที่ Xiamen ผลิตจะมีคุณภาพที่ต่ำกว่างานที่ผลิตในไทย

ประกอบกับเป็นลักษณะการว่าจ้างผลิต โดยจ่ายเป็นค่าแรง จึงคาดว่าราคาขายโครงสร้างเหล็กที่ผลิตโดย Xiamen จะอยู่ในระดับต่ำราว 1.5 แสนเยน/ตัน และมี Gross Margin เพียง 15-20% โดยรวมน่าจะฉุดให้ผลประกอบการไตรมาส 3/58 ปรับลดลง จากไตรมาสก่อนอย่างไรก็ตาม เชื่อว่าสถานการณ์จะดีขึ้นในไตรมาส 4/58 จากแผนการส่งออกของโรงงาน MCS ในไทยที่คาดว่าจะกลับสู่ระดับปกติบริเวณ 9,000-10,000 ตัน

ทั้งนี้เป็นโอกาสของผู้กล้า ซื้อสะสมช่วงหุ้นปรับลดลง โดยมองว่าราคาหุ้น MCS ที่ปรับลงตามสภาวะตลาด เป็นช่วงเวลาที่ดีในการเข้าไปสะสมหุ้นเนื่องจากแนวโน้มผลประกอบการโดยรวมปี 2558 ที่แข็งแกร่ง และจะดีต่อเนื่องในระยะยาว โดยประเมินมูลค่าพื้นฐานอิง PER 12 เท่า ได้ราคาเหมาะสมที่ 11.33 บาท มี Upside สูง 19.9%

Back to top button