SPA ลุ้นกำไร 2Q/58 สดใสต่อเนื่อง-ซื้อได้แรงหนุน M&A-ขยายแฟรนไชส์ไปจีน
SPA คาดกำไรไตรมาส 2/58 ที่ 22.6 ลบ ฟื้นต่อเนื่อง จากแนวโน้มลูกค้าที่เพิ่มขึ้น และเป็นไตรมาสแรกที่รับรู้รายได้เต็มไตรมาสจากการปรับค่าบริการเพิ่มขึ้นตั้งแต่ ก.พ. 58 ปรับราคาเป้าหมายใหม่ TP15F เป็น 8.6 จาก 7.2 / แรงหนุนจากการ M&A และการขยายแฟรนไชส์ไปจีน หนุนกำไรฟื้นตัวต่อเนื่อง
บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (22 ก.ค.) ว่า บริษัท สยามเวลเนสกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ SPA คาดกำไรสุทธิงวดไตรมาส 2/58 ยังคงโดดเด่นที่ระดับ 22.6 ล้านบาท แม้จะเป็นช่วงนอกฤดูกาลใกล้เคียงกับงวดไตรมาส 1/58 ซึ่งเป็น High Season ของธุรกิจสปาที่ 23.7 ล้านบาท จากแนวโน้มรายได้ที่คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 9% เทียบไตรมาสก่อนหน้าและ 83% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนสู่ระดับ 126 ล้านบาท
ส่วนหนึ่งมาจากอานิสงส์ของเทศกาลมหาสงกรานต์ ทำให้มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการสปาเพิ่มมากขึ้นทั้งลูกค้าชาวไทยและต่างประเทศ อีกทั้งยังเป็นไตรมาสแรกที่รับรู้รายได้เต็มไตรมาสจากปรับค่าบริการเพิ่มขึ้นในเดือน ก.พ. 2015 ส่วนความสามารถในการทำกำไรคาดว่าจะยังทรงตัวในระดับสูง แม้จะได้รับเป็นผลของฤดูกาลที่งวดไตรมาส 2/58 มักจะต่ำกว่าไตรมาส 1/58 โดยเราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้น ไตรมาส 2/58 จะอยู่ที่ 37.5% และอัตรากำไรสุทธิ 17.9% ลดลงเล็กน้อยจากไตรมาส 1/58ที่ 39.5% และ 20.5% ตามลำดับ
แนวโน้มผลประกอบการในครึ่งปีหลังคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญฯ โดยเราได้ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 58 ขึ้นจากเดิม 19% เพื่อสะท้อนรายได้ที่เพิ่มขึ้นจาก i) การขยายสาขาสปา 4 ดาวเพื่อเปิดให้บริการภายใต้แบรนด์ Let’s Relax จำนวน 4 สาขา (ขยายด้วยวิธีปกติ 2 สาขา และ M&A 2 สาขา) ซึ่งแม้จะเป็นไปตามแผนการเติบโตประจำปีของบริษัทฯ แต่การขยายในรูปแบบ M&A จำนวน 2 สาขา ทำให้สามารถเปิดให้บริการได้เร็วกว่าคาด
ii) รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากดีล M&A สปา 3 ดาว ที่คาดว่าจะปิดได้อย่างเร็วในเดือน ก.ค. 58 และเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่เดือน ส.ค. 2015 เป็นต้นไป และ iii) แนวโน้มการขยายแฟรนไชส์ไปจีน คาดว่าจะได้ข้อสรุปทันสิ้นปี 58 ซึ่งจะทำให้บริษัทฯรับรู้รายได้จากการขายแฟรนไชส์ในก้อนแรกทันทีราว 5 ล้านบาท ทั้งนี้ภายใต้ประมาณการณ์ใหม่ปี 58 คาดว่ากำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้นจากเดิม 89 ล้านบาท เป็น 106 ล้านบาท และจะเติบโตอีก 40% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนในปี 59 จากการรับรู้รายได้เต็มปีของสาขาที่ M&A เข้ามาในปีนี้
ปรับราคาเป้าหมายใหม่ (TP15F) เป็น 8.60 บาท จากเดิม 7.20 บาท ด้วยวิธี DCF (WACC 9% ,L-T Growth 5%) คิดเป็น PER 45x และ PEG Ratio 0.3x เทียบกับ EPS Growth 15F (+142%) และราคาเป้าหมายปี 2016 ที่ 10.2 บาท แนะนำ “ซื้อ”