ยังไม่ใช่จังหวะเข้าสะสมหุ้น PTTEP ครึ่งปีหลังเสี่ยงราคาน้ำมัน-ค่าเงินอ่อน

บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (24 ก.ค.) ว่า บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/58 เท่ากับ 1.3 พันล้านบาท ลดลงถึง 84.8% จากไตรมาสก่อน แต่ดีกว่าที่ฝ่ายวิจัยคาดไว้ เนื่องจากประเมินราคาขายและปริมาณขายไว้ต่ำเกินไป จึงส่งผลให้รายได้ต่ำกว่าที่เกิดขึ้นจริงราว 4% ขณะที่รายการอื่นๆ ใกล้เคียงคาด

ทั้งนี้กำไรในไตรมาส 2/58 ที่ปรับตัวลดลงอย่างมีนัยฯ หลักๆ เป็นผลมาจากทั้งค่าใช้จ่ายพิเศษและผลการดำเนินงานปกติ โดยในส่วนของค่าใช้จ่ายพิเศษพบว่าอยู่สูงถึง 5.9 ล้านบาท ซึ่งหลักๆ เป็นผลมาจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง และบันทึกขาดทุนจากการทำ Hedging ขณะที่ในส่วนของกำไรปกติที่ลดลงเป็นผลมาจากปริมาณขายและราคาขายที่ลดลง รวมถึงต้นทุนรวมที่เพิ่มขึ้น โดยรวมแล้วกำไรสุทธิ ในครึ่งปีแรกของปี 58 เท่ากับ 9.9 พันล้านบาท ลดลงถึง 67.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และคิดเป็น 48.7% ของประมาณการทั้งปี 2558 ที่ฝ่ายวิจัยประเมินไว้

 

ฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการกำไรปี 2558 โดยคาดกำไรปกติในช่วงครึ่งปีหลังของปี 58 จะอยู่ราว 1 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 51.3% ของประมาณการกำไรปี 2558 อย่างไรก็ตามในประมาณการปัจจุบันยังไม่รวมความเสี่ยงจากค่าใช้จ่ายพิเศษที่อาจเกิดขึ้นได้ในครึ่งปีหลังของปี 58 โดยเฉพาะผลกระทบจากค่าเงินบาทที่ปัจจุบันยังเดินหน้าอ่อนตัวเมื่อเทียบกับสิ้นไตรมาส 2/58 ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนได้

รวมถึงฝ่ายวิจัยกำหนดให้สมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบในช่วงครึ่งปีหลังของปี 58 เท่ากับ 60 เหรียญฯต่อบาร์เรล ซึ่งหากค่าเฉลี่ยที่เกิดขึ้นจริงต่ำกว่าอาจส่งผลให้ประมาณการบิดเบือนได้ อย่างไรก็ตามหากพิจารณาแนวโน้มกำไรทั้งปี 2558 คาดจะปรับตัวลดลงอีก 5.1% จากปีก่อน แต่จะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งในปี 2559 ถึง 62.9% ตามสมมติฐานราคาน้ำมันที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้น

 

ฝ่ายวิจัยประเมินมูลค่าพื้นฐาน ณ สิ้นปี 2558 เท่ากับ 110 บาทต่อหุ้น คงคำแนะนำ “ถือ” โดยประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตราหุ้นละ 1 บาท คิดเป็น Dividend Yield งวดครึ่งปีที่ 1.09% (ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 4 ส.ค.)