CPF ราคาหุ้นปรับฐานในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ฟากธุรกิจหลักยังดีแนะซื้อสะสมเป้า40บ.  

บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(19ก.พ.63) ว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของ CPF จะเติบโตต่อเนื่องในปี 2563 โดยคาดกำไรสุทธิปี 2562-63 จะเติบโต 32.0% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 5.1% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เช่นเดียวกับคาดกำไรปกติปี 2562-63 จะเติบโตถึง 62.4% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 31.8% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน จากธุรกิจสุกรในไทยและเวียดนามฟื้นตัวชัดเจน และตลาดส่งออกไก่ยังเติบโตต่อเนื่อง

ขณะที่คาดกำไรปกติงวดไตรมาส4/62 ของ CPF จะฟื้นตัวต่อเนื่องจากธุรกิจสุกรในเวียดนามฟื้นตัวชัดเจน และคาดกำไรปกติงวด ไตรมาส1/63 จะเติบโตชัดเจนต่อเนื่องอีกจากงวดไตรมาส4/62 โดยราคาสุกรปัจจุบันอยู่ที่ 68 บาท/กก. ยังถือว่าอยู่ในระดับที่ดีต่อเนื่อง และราคาสุกรเฉลี่ยตั้งแต่ต้นงวดไตรมาส1/63 อยู่ที่ 73 บาท/กก. เพิ่มขึ้นถึง 24.5% เทียบไตรมาสก่อนหน้า และ 4.8% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน

ขณะที่ราคาสุกรในเวียดนามเฉลี่ยตั้งแต่ต้นงวดไตรมาส1/63 ยังทรงตัวสูงที่ระดับ 8 หมื่นดอง/กก. (107 บาท/กก.) เพิ่มขึ้นถึง 22.3% เทียบไตรมาสก่อนหน้า และ 72.0% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน จากปัญหาสุกรขาดแคลนในเวียดนาม ขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ ทั้งข้าวโพดและกากถั่วเหลืองยังทรงตัวต่ำต่อเนื่อง ส่งผลบวกต่อประสิทธิภาพการทำกำไรเต็มที่ในงวดไตรมาส1/63

ทั้งนี้ แม้ว่า CPF จะมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจในประเทศจีน 24% ของรายได้รวม แต่จากการสอบถามไปทาง CPF เกี่ยวกับการระบาดของโคโรน่าไวรัสในประเทศจีน พบว่าจะส่งผลกระทบต่อ CPF จำกัด เพราะรายได้หลักเป็นธุรกิจอาหารสัตว์ราว 19% ธุรกิจฟาร์มเลี้ยงไก่ 4% และธุรกิจอาหารสำเร็จรูปสำหรับคน 1%

โดย CPF มีโรงงานกระจายอยู่ทั่วประเทศจีน และโรงงานอาหารสัตว์และฟาร์มเลี้ยงไก่ใช้คนน้อย ส่วนใหญ่ใช้เครื่องจักรเป็นหลัก อีกทั้ง ประเมินว่าธุรกิจอาหารจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โคโรน่าไวรัสน้อยกว่าธุรกิจอื่น เพราะคนยังต้องบริโภคอาหารเช่นเดิม

ทั้งนี้ ราคาหุ้น CPF ได้ปรับฐานลงมา 4% ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา เชื่อว่าได้สะท้อนราคาสุกรในไทยที่อ่อนตัวหลังผ่านช่วงเทศกาลตรุษจีนและนักท่องเที่ยวมาไทยลดลง และความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์โคโรน่าไวรัสไปมากแล้ว จึงยังแนะนำซื้อ CPF (FV@B40)