BECL แนวโน้มควบรวมบริษัทใหม่ล่าช้าแต่ราคาเริ่มมี Upside กูรูปรับเพิ่มเป็นถือ
แนวโน้มการควบรวมกับบริษัทใหม่ของ BECL อาจล่าช้าออกไปเป็นช่วง Q1/59 แทนจากกระบวนการภาครัฐที่ยังต้องรออนุมัติหลายหน่วยงาน อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นปัจจุบันได้ปรับฐานลงมาจนเกิด Upside จึงปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น “ถือ”
บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (13 ส.ค.) ว่า บริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BECL รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/58 อยู่ที่ 624 ล้านบาท ลดลง 6.5% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน เนื่องจากงวดปีก่อนมีกำไรพิเศษ 42 ล้านบาท จากเงินชดเชยน้ำท่วม หากนับเฉพาะ Norm profit ยังทรงตัว
ฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการกำไรปีนี้ไว้ โดยยังไม่ได้รวมกำไรพิเศษจากการขายหุ้น BMCL ที่ถือทั้งหมด 10% คืนให้ CK เพื่อปรับโครงสร้างธุรกิจก่อนการจัดตั้งบริษัทใหม่ ซึ่งคาดจะบันทึกกำไรไตรมาส 3/58 ราว 1.06 พันล้านบาท ขณะที่ การควบรวมกับ BMCL มีแนวโน้มล่าช้าออกไปจากเดิมซึ่งคาดว่าจะอยู่ในช่วงเดือน ส.ค. เกิดจากกระบวนการจากภาครัฐซึ่งยังต้องรอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอนุญาตให้เกิดการเปลี่ยนแปลงคู่สัญญาสัมปทานระหว่างภาครัฐ และ BECL (ทางด่วนขั้นที่ 2 ส่วน D และทางพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอกฯ) และ BMCL (รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน หัวลำโพง-บางซื่อ และสายสีม่วง บางซื่อบางใหญ่) ไปเป็นบริษัทใหม่แทน (BEM)
ซึ่งกระบวนการล่าสุดยังต้องขออนุมัติอีกราว 3 หน่วยงาน คือ 1) การพิจารณาร่างสัญญาจากสำนักงานอัยการสูงสุด 2) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และสุดท้ายต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ซึ่งประเมินว่า กระบวนการจัดตั้งบริษัทใหม่น่าจะเกิดขึ้นในไตรมาส 1/59 แทน สอดคล้องกับมติบริษัทซึ่งเตรียมที่จะจัดประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อขอยืดมติระยะเวลาการควบรวมจากเดิมสิ้นสุด ต.ค. 58 ออกไปอีก 6 เดือนเป็นสิ้นสุด เม.ย.59 แทน ขณะที่ ฝ่ายวิจัยยังไม่ได้รวมประมาณการของทั้ง 2 บริษัทไว้แต่อย่างใด
บริษัทประกาศจ่ายปันผลงวดครึ่งปีแรกของปี 58 ที่ 0.8 บาทหรือเทียบเท่า 2.1% (XD 24 ส.ค.) ขณะที่งวดครึ่งปีหลังคาดจะจ่ายในระดับสูงถึง 1.5 บาท ใกล้เคียงงวดเดียวกันปีก่อน ทำให้ div yield ทั้งปีสูง 6% กอปรกับ ราคาหุ้นปัจจุบันได้ปรับฐานลงมาจนเริ่มมี upside จากมูลค่าพื้นฐานที่ 39 บาท (อิงสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทใหม่) จึงปรับเพิ่มคำแนะนำจากเดิม “ซื้อ” เป็น “ถือ”