TUF กำไรหลักปี 58 ที่ 5.62 พันลบ.คาดอัตราผลตอบแทนเงินปันผล 3%
บล.ไอร่า ระบุว่า TUF ราคามี Upside 24% และคาดอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 3% จึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”
บล.ไอร่า ระบุในบทวิเคราะห์ (20 ส.ค.) บริษัท ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TUF รายงานกำไรสุทธิในไตรมาส 2/58 เท่ากับ 1,412 ล้านบาท (ลดลง 7.2% จากปีก่อน) ลดลงจากการ ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน และค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวสำหรับเข้าซื้อกิจการ
ขณะที่กำไรหลักเท่ากับ 1,497 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 9.3% จากปีก่อน) เพิ่มขึ้นจากอัตรากำไรขั้นต้นปรับเพิ่มขึ้นมาจากผลประกอบการของธุรกิจในยุโรปที่ดีขึ้น ราคาวัตถุดิบปรับตัวลดลงและการฟื้นตัวของธุรกิจอาหารสัตว์ในสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม แม้ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินบาท ส่งผลกระทบต่อยอดขายของธุรกิจในยุโรป แต่จากการรับรู้เต็มไตรมาสของ King Oscar, MerAlliance และ Orion ส่งผลให้ยอดขายในไตรมาส 2/58 เท่ากับ 30,642 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 1.3% จากปีก่อน) นอกจากนี้ TUF จะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 25/8/58 และจ่ายเงินปันผลวันที่ 9/9/58 เท่ากับ 0.32 บาทต่อหุ้น
ทั้งนี้ปรับลดประมาณการกำไรหลักปี 58 ลงเหลือ 5,615 ล้านบาท หรือลดลง 5% จากประมาณการเดิมเนื่องจากเงินยูโรปี 58 เฉลี่ยอ่อนค่าลงมากกว่าคาดซึ่งยอดขายจากยุโรปมีสัดส่วนถึง 30% ขณะที่ยอดขายในสกุลเงินอื่นจะยังสามารถเติบโตได้ เช่น สหรัฐฯแคนาดา ไทย แอฟริกา รวมแล้วเราคาดว่ายอดขายเท่ากับ 142,048 ล้านบาท ลดลง 5% จากประมาณการเดิม และคงประมาณการอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ย 15%-16% และอัตรากำไรสุทธิเฉลี่ย 4%-5%
ขณะที่คาดการเพิ่มทุนไม่เกิดขึ้นภายในปี 58 ซึ่ง TUF จะเพิ่มทุนอีกครั้งหลังจากการเข้าซื้อ Bumble Bee (BB) เสร็จสิ้น โดยขั้นตอนการเข้าซื้ออยู่ในกระบวนการตรวจสอบเกี่ยวกับ Antitrust Laws คาดว่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นในอีก 4-6 สัปดาห์ข้างหน้าหากติดข้อแม้ในประเด็น Antitrust Laws ทาง TUF จะพิจารณาลดสัดส่วนการลงทุนใน Chicken of the Sea (COS) ซึ่งคาดว่ามีมูลค่าราว 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าสัญญาซื้อขาย BB จะสิ้นสุดในวันที่ 18/12/58แต่เราคาดว่า TUF จะต่อรองกับผู้ขายเพื่อขยายเวลาของสัญญาซื้อขาย
ทั้งนี้ได้ปรับราคาเหมาะสมจากเดิม 23.50 บาท เป็น 22.60 บาท ณ ระดับราคาที่ซื้อขายในปัจจุบันเทียบกับราคาเหมาะสมที่ 22.60 บาทต่อหุ้น อิง EV/EBITDA 13x มี Upside 24% และคาดอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 3% จึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”