LHK ปีนี้ธุรกิจอยู่ในช่วงประคองตัวแนะถือ Valuation จูงใจ-ปันผลสูง

LHK ปีนี้ต้องลดมาร์จิ้นลงบ้างเพื่อประคองรายได้ให้ทรงตัว ฐานะการเงินแข็งแรง ไม่มีหนี้สินระยะยาวจ่ายปันผลได้สูงต่อเนื่อง คาด Yield ปีนี้ 5.2% จ่ายปีละ 2 ครั้ง แนะนำถือ ให้ราคาพื้นฐาน 3.43 บาท อิงกับ P/E ปี 58/59 ที่ 12 เท่า


บล.ดีบีเอสฯ ระบุในบทวิเคราะห์ (11 ก.ย.) ว่า บริษัท โลหะกิจ เม็ททอล จำกัด (มหาชน) หรือ LHK ยอดผลิตรถยนต์ลดลงในช่วงเม.ย.-มิ.ย.58 อัตราการใช้กำลังการผลิตรถยนต์ใน ไตรมาส 1/58 เท่ากับ 84% แต่ลดลงเป็น 63.5% เพราะยอดขายรถยนต์ในประเทศลดลงมาก เฉลี่ยครึ่งแรกปี 58 อยู่ที่ 73.7% ที่ 9.4 แสนคัน (-1.7% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) ส่วนเฉลี่ยของปี 57 อยู่ที่ 76.2% สำหรับเป้าหมายการผลิตทั้งปี 58 อยู่ที่ 2 ล้านคัน (เดิม 2.2 ล้านคัน) สำหรับยอดการผลิตรถจักรยานยนต์ก็ลดลงเช่นกัน โดยในครึ่งแรกปี 58 อยู่ที่ 1.27 ล้านคัน (+1.56% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) เพราะเศรษฐกิจไทยซบเซาและยาวนาน

ภาคก่อสร้างชะลอตัวลงเช่นกัน โดยอัตราการใช้กำลังการผลิตของกลุ่มนี้ลดลงเป็น 70.4% ในไตรมาส 2/58 จาก 71.5% ใน ไตรมาส 1/58 ส่วนหนึ่งเป็นเพราะวันหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์ด้วย แนวโน้มยังไม่กระเตื้องเร็วนักเพราะการลงทุนโดยรวมยังซบเซา มาตรการภาครัฐที่เข้ามากระตุ้นคาดว่าจะส่งผลดีได้ตั้งแต่ปลายปี 58 หรือตั้งแต่ไตรมาส1/59 เป็นต้นไป

มาร์จิ้นของบริษัทลดลงเพราะถูกต่อรองราคาจากลูกค้าในช่วงที่เศรษฐกิจไม่ดี อัตรากำไรขั้นต้นในงวดเม.ย.-มิ.ย.58 ลดลงเป็น 9.4% จาก 10.5% ในไตรมาสก่อนหน้า และอัตรากำไรสุทธิงวดเม.ย.-มิ.ย.58 เท่ากับ 3.1% สำหรับโครงสร้างรายได้ในช่วงเม.ย.-มิ.ย.58 เป็นจากยานยนต์ 31% (รถยนต์ 21% และจักรยานยนต์ 10%), เครื่องใช้ไฟฟ้า 17%, ก่อสร้าง 22%, ค้าส่ง 19% ที่เหลือเป็นอื่นๆ

แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 58/59 (งวดก.ค.-ก.ย.58) คาดว่าจะทรงตัวเทียบไตรมาสก่อนหน้า เพราะอุปสงค์โดยรวมทรงๆ ตัว ส่วนการอ่อนตัวของค่าเงินบาทกระทบไม่มาก เพราะบริษัทมีการทำประกันความเสี่ยง 100% สำหรับการนำเข้าวัตถุดิบ (สเตนเลส) ส่วนวัตถุดิบสเตนเสลที่ซื้อในประเทศก็อยู่ในรูปเงินบาท (LHK นำเข้าวัตถุดิบ 50% และซื้อในประเทศ 50%)

ประมาณการกำไรสุทธิปี 58/59 ลดลง 20% โดยภาพรวมบริษัท คาดว่าปี 58/59 (เม.ย.58-มี.ค.59) จะมีกำไรสุทธิอ่อนลงจากปีก่อนประมาณ 20% เป็น 109 ล้านบาท คิดเป็น EPS 0.29 บาท ทั้งนี้ยอดรายได้รวมอยู่ในเกณฑ์ทรงตัว แต่อัตรากำไรจะลดลงจากปีก่อนเพราะเป็นช่วงเวลาที่ลูกค้าต้องลดต้นทุนเพื่อประคับประคองธุรกิจ จึงมีการต่อรองราคากับผู้ผลิตชิ้นส่วนอีกทอดหนึ่งด้วย เราประมาณการอัตรากำไรสุทธิปีนี้ไว้ที่ 3.2% ลดลงจากปีก่อนที่ 4.1%

Valuation  จูงใจ จ่ายปันผลสูง…แนะนำถือลงทุน ณ ราคาปัจจุบันที่ 3 บาท ซื้อขายที่ P/E ปี 58/59 เท่ากับ 10.5 เท่า โดยมี P/BV 0.73 เท่า และมี EV/EBITDA เพียง 5.0 เท่า คาดอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) เท่ากับ 5.2% ในปี 58/59  แนะนำถือเพื่อรับปันผล ราคาเป้าหมายระยะ 12 เดือนข้างหน้าเท่ากับ 3.43 บาท อิงกับ P/E รอบปีนี้ที่ 12 เท่า ซึ่งเทียบเท่ากับ EV/EBITDA เป้าหมาย 5.7 เท่าและ P/BV เป้าหมายที่เพียง 0.9 เท่า ทั้งนี้เราไม่ได้ให้ราคาเป้าหมายบน Valuation Band ที่สูง เพราะเห็นว่าผลประกอบการต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว โดยสัญญาณบวกต่อบริษัท คือ ยอดผลิตรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น และการก่อสร้างขยายตัวดีขึ้น ความเสี่ยงหลัก คือ การชะลอตัวของเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกที่ยาวนานกว่าคาด และการย้ายฐานการผลิตของผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนจากไทยไปประเทศเพื่อนบ้าน

 

Back to top button