TASCO แนวโน้มระยะยาวยังเป็นบวกแนะซื้อเป้าหมาย 30 บ.อัพไซด์ 15%
TASCO แม้ว่าอุปสงค์ในประเทศจะอ่อนลง เพราะมีการเลื่อนประมูลงานก่อสร้างถนนส่วนเพิ่มอีก 4 หมื่นล้านบาท ออกไปจาก ไตรมาส3/58 เป็น ไตรมาส4/58 แต่เรายังคาดว่ากำไรในงวดไตรมาส3/58 จะยังเติบโตได้ สืบเนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ทำได้สูงขึ้น ซึ่งมีผลจากราคาน้ำมันที่อ่อนค่าลง และอุปสงค์ยางมะตอยที่ต่างประเทศแข็งแกร่งที่จีน เวียดนามและอินโดนีเซียเป็นฤดูกาลที่ดีที่สุด
บล.ดีบีเอสฯ ระบุในบทวิเคราะห์ (16 ก.ย.) ว่า บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TASCO แม้ว่าอุปสงค์ในประเทศจะอ่อนลง เพราะมีการเลื่อนประมูลงานก่อสร้างถนนส่วนเพิ่มอีก 4 หมื่นล้านบาท ออกไปจากไตรมาส 3/58 เป็น ไตรมาส4/58 แต่ยังคาดว่ากำไรในงวดไตรมาส3/58 จะยังเติบโตได้ สืบเนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ทำได้สูงขึ้น ซึ่งมีผลจากราคาน้ำมันที่อ่อนค่าลง และอุปสงค์ยางมะตอยที่ต่างประเทศแข็งแกร่งที่จีน เวียดนามและอินโดนีเซียเป็นฤดูกาลที่ดีที่สุด
ด้านไตรมาส 4/58 ก็คาดว่ากำไรจะยังคงแข็งแกร่งได้อีก เพราะโครงการถนนเลื่อนมาไตรมาสนี้ ซึ่งจะทำให้ความต้องการในเกรดพรีเมี่ยมเพิ่มขึ้น (อัตรากำไรขั้นต้น 30%) เราคาดว่าการใช้งบ 25 พันล้านบาท สำหรับการทำ Highways จะเกิดขึ้นในปีนี้ ส่วนอีก 15 พันล้านบาทในการทำถนนที่ต่างจังหวัดจะเกิดขึ้นในไตรมาส1/59 ส่วนราคาขายยางมะตอยล่าสุดในประเทศเป็น 342 เหรียญต่อตัน (เดือนที่แล้ว 400) และต่างประเทศเป็น 320 เหรียญต่อตัน (เดือนที่แล้ว 370)
ปัจจัยบวกท่วมท้นคือ อุปสงค์ในยางมะตอยแข็งแกร่งในภูมิภาค ต้นทุนต่ำลงตามราคาน้ำมันโลกที่ปรับลง คาดว่าจะดีไปเป็นเวลาอย่างน้อยอีก 2 ปี ความคาดหวังนี้เกิดจากเป็นเพราะรัฐบาลในภูมิภาคแถบนี้ ได้แก่อินโดนีเซียและประเทศต่างๆมีนโยบายการใช้จ่ายจากภาครัฐเพิ่มขึ้น ส่วนราคาน้ำมันที่ตกลงก็ทำให้ TASCO ได้รับประโยชน์เต็มที่ เพราะเป็นต้นทุนหลัก ปัจจุบันได้รับส่วนลดเป็นจำนวนมากจาก suppliers ที่เวเนซูเอล่า ซึ่งปัจจุบันจำหน่ายวัตถุดิบให้ TASCO เป็นสัดส่วนประมาณ 80% นอกจากนี้บริษัทได้มีแผนเพิ่มกำลังการผลิตการกลั่นเป็น 50k bbl/วัน จากเดิม 30k bbl/วัน เราคาดว่ากำลังการผลิตใหม่จะเริ่มได้ปี 2563
คงคำแนะนำ ซื้อ แต่ปรับราคาพื้นฐานขึ้นเป็น 30 บาท เราได้มีการปรับประมาณการปี 59 เพิ่มอีก 29% หลังจากปรับสมมุติฐานด้านอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มเป็น 11% จากเดิม 8.6% เพื่อสะท้อนต้นทุนวัตถุดิบที่ลดต่ำลง ราคาพื้นฐานประเมินด้วย P/E ปี 59 ที่ 10.6 เท่า (+0.5 SD จากค่าเฉลี่ย P/E) ราคาปิดมีส่วนเพิ่มได้อีก 15%