MAJOR ครึ่งปีหลังแจ่ม หนังดังยกทัพเข้าเพิ่มช่องทางเข้าถึงผ่านสื่อออนไลน์หนุน
โบรกฯแนะ MAJOR เชื่อครึ่งปีหลังผลประกอบน่าจะเติบโตขึ้นหลังหนังดังเข้าไตรมาส 3-4/58 รายได้จากค่าโฆษณา, การเพิ่มขึ้นของโรงภาพยนต์ และช่องทางเข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้นโดยผ่านสื่อออนไลน์จะมีส่วนช่วยหนุนให้ผลประกอบการปีนี้เติบโต
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (18 ก.ย.) แนะนำหุ้นบริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR (ราคาเป้าหมายเฉลี่ยจาก IAA Consensus 34.74 บาท) โดยผลประกอบการในไตรมาส 2/58 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 490 ล้านบาท +147% จากไตรมาสก่อน และ +10.11% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน เป็นผลมาจากมีกำไรการขายหุ้น SF, มีการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายที่ดี
ขณะเดียวกันมีรายได้ที่ 2,666 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยรายได้มาจากการขายตั๋วหนัง จากหนังทำเงิน 3 เรื่อง บวกกับการขยายสาขาใหม่ 9 สาขา และ 1 สาขาในกัมพูชา, การขายอาหารและเครื่องดื่มที่ทรงตัว ขณะที่รายได้จากค่าโฆษณาเติบโตขึ้นถึง 17% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และจากช่องทางอื่น เช่น ลานโบว์ลิ่ง ร้านขายปลีกและ Movie Contents
ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2558 ผลประกอบน่าจะเติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีฐานที่ต่ำ มาจากรายได้จากหนังทำเงินโดยในไตรมาส 3/58 เช่น MI5, Ant-Man และ Terminator: Genisys และไตรมาส 4/58 เช่น Bond 24: 007: Spectr, Star Wars: Episode VII, The Hunger Games: Mockingjay (Part 2), รายได้จากค่าโฆษณาที่มีแนวโน้มเติบโตขึ้น, การเพิ่มขึ้นของโรงภาพยนต์ (การเปิดสาขาใหม่ที่เซ็นทรัลเวสต์เกท) อีกทั้ง MAJOR ยังมีช่องทางเข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้นโดยผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้คาดว่าจะมีส่วนช่วยหนุนให้ผลประกอบการปีนี้เติบโตขึ้นทั้งในแง่ของรายได้และกำไร