TIPCO ลุ้นกำไรปีนี้นิวไฮตั้งแต่ตั้งบริษัทแนะซื้อเก็งกำไรราคาเป้าหมาย 18.2 บ
TIPCO คาดปี 58 จะสามารถทำกำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการตั้งแต่จัดตั้งบริษัทมา (Hi Record) ด้วยกำไรสุทธิ 1 พันล้านบาท เทียบกับปี 57 ที่มีกำไรสุทธิเพียง 78 ล้านบาท โดยมีแรงผลักดันจากส่วนแบ่งกำไรของ TASCO ที่สูงเป็น 954 ล้านบาท แนะนำ ซื้อเก็งกำไร หากเราประเมินมูลค่าเหมาะสม TIPCO ด้วย P/BV ที่ระดับ 0.9 เท่า ด้วยมูลค่าหุ้นทางบัญชีหลังปรับปรุง (Adjusted Book Value) ที่ 21.30 บาท รวมทั้งคิดส่วนลด 5% ซึ่งส่วนใหญ่บริษัทโฮลดิ้งส์จะซื้อด้วยส่วนลด จะได้ราคาพื้นฐานที่ 18.20 บาท ซึ่งเทียบเท่า P/E ปี 58 ที่เพียง 8.4 เท่า และเทียบกับ P/E เฉลี่ยกลุ่มอาหารปัจจุบันซื้อขายที่ 18.9 เท่า จึงถือว่าราคาพื้นฐานนั้นยังอนุรักษ์นิยมอยู่มาก
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุในบทวิเคราะห์ (1 ต.ค.) ว่า บริษัท ทิปโก้ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPCO ด้วยต้นทุนที่บริษัทแม่ TIPCO ถือใน TASCO ต่ำเพียง 5.40 บาท ล่าสุดถือหุ้นในสัดส่วน 24% ขณะที่ราคาหุ้น TASCO ล่าสุดสูงขึ้นไปเป็น 29.75 บาท หากสมมุติให้ TIPCO ขายหุ้น TASCO ออกไปหมดจะได้กำไรหลังหักภาษีสูงถึง 7.2 พันบ้านบาท หรือคิดเป็นกำไรต่อหุ้น TIPCO ที่ 14.93 บาท ดังนั้นการซื้อหุ้น TIPCO ตอนนี้เท่ากับจ่ายค่าหุ้นไปเพียง 0 บาทต่อหุ้น หรือได้มาฟรี เพราะส่วนกำไรที่ยังไม่รับรู้ใน TASCO นั้นมากกว่าราคาหุ้น TIPCO แล้วนั่นเอง
หรือในอีกแง่มุมหนึ่งคือ จากราคาพื้นฐานของ TASCO ที่ฝ่ายวิจัยฯให้ไว้ที่ 30.00 บาท หาก TIPCO ขายหุ้นทั้งหมดใน TASCO จะได้รับกำไรหลังภาษีเป็น 7.3 พันล้านบาท หรือคิดเป็นกำไรต่อหนึ่งหุ้น TIPCO ที่ 15.08 บาท และนำไปปรับปรุงกับมูลค่าหุ้นทางบัญชีของ TIPCO ณ สิ้น 2Q58 ที่ 6.22 บาท จะได้มูลค่าทางบัญชีต่อหุ้นหลังปรับปรุงสูงเป็น 21.30 บาท
เราสังเกตความเคลื่อนไหวราคาหุ้น TIPCO เปรียบเทียบกับ TASCO พบว่าแม้ราคาหุ้น TIPCO ได้ปรับขึ้น 123% ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน (YTD) แต่ก็ถือว่ายังช้ากว่า (lag time) กับ TASCO ที่ YTD ปรับขึ้นมาแล้ว 358% จึงอาจกล่าวได้ว่าราคาหุ้น TIPCO ในปัจจุบันยังไม่ได้สะท้อนผลดีจากการมีหุ้น TASCO ได้เต็มที่
ทางด้านงบการเงินของ TIPCO ก็ได้สะท้อนผลดีจากส่วนแบ่งกำไรของบริษัทร่วมซึ่งตัวหลักคือ TASCO ได้เป็นอย่างดี ครึ่งแรกปี 58 เป็น 621 ล้านบาท เพิ่มก้าวกระโดดจาก เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่เป็นกำไร 61 ล้านบาท ถึง 916% จึงมีส่วนสำคัญที่ทำให้กำไรสุทธิ TIPCO งวดครึ่งแรกปี 58 พุ่งไปถึง 681 ล้านบาท เพิ่ม 4,199% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิเพียง 16 ล้านบาท
นอกจากนี้ธุรกิจเฉพาะ TIPCO เองก็พลิกมีกำไรงวดครึ่งแรกปี 58 เป็น 60 ล้านบาท ฟื้นตัวจาก เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่เป็นขาดทุน 45 ล้านบาท สืบเนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ทำได้สูงขึ้นเป็น 31% เทียบกับ เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 30.9% สินค้าหลักที่ผลักดัน คือ น้ำแร่มีกำไรขั้นต้นสูงขึ้น รวมทั้งสัดส่วนค่าใช้จ่ายขาย-บริหารเทียบกับรายได้ต่ำลงเป็น 33% เทียบกับเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 35.5% เพราะประหยัดค่าใช้จ่ายการขายและการตลาดได้เป็นอย่างดี
คาดว่าปี 58 TIPCO จะสามารถทำกำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการตั้งแต่จัดตั้งบริษัทมา (Hi Record) ด้วยกำไรสุทธิ 1 พันล้านบาท เทียบกับปี 57 ที่มีกำไรสุทธิเพียง 78 ล้านบาท โดยมีแรงผลักดันจากส่วนแบ่งกำไรของ TASCO ที่สูงเป็น 954 ล้านบาท
แนะนำ ซื้อเก็งกำไร หากเราประเมินมูลค่าเหมาะสม TIPCO ด้วย P/BV ที่ระดับ 0.9 เท่า ด้วยมูลค่าหุ้นทางบัญชีหลังปรับปรุง (Adjusted Book Value) ที่ 21.30 บาท รวมทั้งคิดส่วนลด 5% ซึ่งส่วนใหญ่บริษัทโฮลดิ้งส์จะซื้อด้วยส่วนลด จะได้ราคาพื้นฐานที่ 18.20 บาท ซึ่งเทียบเท่า P/E ปี 58 ที่เพียง 8.4 เท่า และเทียบกับ P/E เฉลี่ยกลุ่มอาหารปัจจุบันซื้อขายที่ 18.9 เท่า จึงถือว่าราคาพื้นฐานนั้นยังอนุรักษ์นิยมอยู่มาก
อย่างไรก็ตามราคาปิดยังมีส่วนเพิ่มเทียบกับราคาพื้นฐานได้อีกถึง 27% อีกทั้งการที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกขณะนี้ได้ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง TASCO ได้รับผลดีจากต้นทุนวัตถุดิบที่ต่ำลง จนในที่สุดหากราคาหุ้นมีการปรับขึ้นไป ทางบริษัทแม่คือ TIPCO ก็ยังมี upside risk เพิ่มได้อีก