MINT กำไรดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 4/58มองปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งแนะนำซื้อ
MINT ชอบในประเด็นการกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจได้เป็นอย่างดี และมีกลยุทธ์การขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แนวโน้มธุรกิจสดใส กำไรดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 4/58 เป็นต้นไป เพราะ 1) เข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว 2) โครงการที่อยู่อาศัยเริ่มให้รายได้คือ อนันตรา เรสซิเดนท์ ที่ภูเก็ต 3) มีแหล่งรายได้เพิ่มขึ้นจากโรงแรมแห่งใหม่คือ Avani Riverside รวมทั้งการปรับปรุงตกแต่งโรงแรม 3 แห่งแล้วเสร็จ 4) มี upside จากการได้กิจการอีก 8 แห่งของโรงแรม Tivoli รวมทั้ง 5) มีการปรับปรุงธุรกิจอาหารที่สิงคโปร์ครั้งใหญ่สำเร็จแล้ว นั่นคือ Thai Express แนะซื้อราคาเป้าหมาย 35 บาท
บล.ดีบีเอสฯ ระบุในบทวิเคราะห์ (6 ต.ค.) ว่า บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT ชอบในประเด็นการกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจได้เป็นอย่างดี และมีกลยุทธ์การขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แนวโน้มธุรกิจสดใส กำไรดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 4/58 เป็นต้นไป เพราะ 1) เข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว 2) โครงการที่อยู่อาศัยเริ่มให้รายได้คือ อนันตรา เรสซิเดนท์ ที่ภูเก็ต 3) มีแหล่งรายได้เพิ่มขึ้นจากโรงแรมแห่งใหม่คือ Avani Riverside รวมทั้งการปรับปรุงตกแต่งโรงแรม 3 แห่งแล้วเสร็จ 4) มี upside จากการได้กิจการอีก 8 แห่งของโรงแรม Tivoli รวมทั้ง 5) มีการปรับปรุงธุรกิจอาหารที่สิงคโปร์ครั้งใหญ่สำเร็จแล้ว นั่นคือ Thai Express
ที่มารายได้กระจายความเสี่ยง นั่นคือ ประมาณ 55% มาจากไทย ส่วนที่เหลือ 45% มาจากต่างประเทศ ส่วนเรื่องการลอบวางระเบิดแยกราชประสงค์มีผลกระทบน้อยต่อบริษัท เพราะสัดส่วนรายได้จากโรงแรมในกรุงเทพฯเป็นสัดส่วนเพียง 6% จากรายได้รวม เราเห็นว่า MINT เป็นหลักทรัพย์ที่มีผลการดำเนินงานที่ดี ในกลุ่มโรงแรมไทย และได้ประโยชน์เต็มที่จากธุรกิจท่องเที่ยวไทยที่กำลังเติบโตสดใส อีกทั้งไทยมีสถานการณ์การเมืองที่ควบคุมได้ในขณะนี้ รวมทั้งข้อดีคือเป็นปลายทางการท่องเที่ยวที่มีความคุ้มค่าในการใช้เงิน (value for money) ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาหุ้นขณะนี้ซื้อขายด้วย P/E ปี 59 ที่ 20 เท่า ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ย 7 ปีย้อนหลัง ราคาพื้นฐานเป็น 35.00 บาท ซึ่งประเมินด้วยวิธีส่วนคิดลดกระแสเงินสดสุทธิ (DCF) ราคาปิดมีส่วนเพิ่มได้อีกถึง 25%