QTC ลุ้นไตรมาส 3/58 กลับมามีกำไรแนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 6.29 บาท

QTC ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/58 คาดว่ากำไรจะเริ่มโดดเด่น จากขาดทุนในครึ่งปีแรก 8.5 ล้านบาท โดยยังคงประเมินว่าผลประกอบการจะเติบโตโดดเด่นในครึ่งปีหลัง ซึ่งเป็นผลจากทางด้านฤดูกาลที่บริษัทจะสามารถรับรู้รายได้ในครึ่งปีหลังมาก โดยเฉพาะในไตรมาส 4 เราประเมินรายได้ในไตรมาสนี้ที่ 313 ล้านบาท (คาดว่าเป็นการเพิ่มขึ้นของรายได้ถึง 73%เทียบไตรมาสก่อนหน้าและ 153% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) และ อัตรากำไรขั้นต้นที่ 17% จากการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้นและประเมินกำไรที่ 25.8 ล้านบาท


บล.ดีบีเอสฯ ระบุในบทวิเคราะห์ (8 ต.ค.) ว่า บริษัท คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ QTC ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/58 คาดว่ากำไรจะเริ่มโดดเด่น จากขาดทุนในครึ่งปีแรก 8.5 ล้านบาท โดยยังคงประเมินว่าผลประกอบการจะเติบโตโดดเด่นในครึ่งปีหลัง ซึ่งเป็นผลจากทางด้านฤดูกาลที่บริษัทจะสามารถรับรู้รายได้ในครึ่งปีหลังมาก โดยเฉพาะในไตรมาส 4 เราประเมินรายได้ในไตรมาสนี้ที่ 313 ล้านบาท (คาดว่าเป็นการเพิ่มขึ้นของรายได้ถึง 73%เทียบไตรมาสก่อนหน้าและ 153% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) และ อัตรากำไรขั้นต้นที่ 17% จากการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้นและประเมินกำไรที่ 25.8 ล้านบาท

Backlog สิ้นไตรมาส 3 ยังเหลืออีก 458.65 ล้านบาทและคาดว่าจะรับรู้เป็นรายได้ในไตรมาส 4 ประมาณ 420 ล้านบาท โดยหากรวมรายได้ในครึ่งปีแรก และแนวโน้มรายได้ในไตรมาส 3 ที่ 313 ล้านบาทและ Backlog ที่จะรับรู้ได้ในไตรมาส 4 อีก 420 ล้านบาทแล้ว ทำให้รวมคาดว่ารายได้ทั้งปี 2558 อยู่ที่ 1,083  ล้านบาท ใกล้เคียงที่เราประเมินไว้ที่ 976 ล้านบาท เนื่องจากอาจจะมีการส่งมอบงานบางส่วนช้ากว่าที่กำหนดบ้างเล็กน้อย

อัตรากำไรยังเพิ่มขึ้นไม่เร็วจากการแข็งขันที่สูง แต่เชื่อว่าจะเห็นผลชัดเจนในไตรมาส 4 โดยปกติบริษัทจะได้ประโยชน์จากการมีต้นทุนคงที่สูงในช่วงที่รายได้เพิ่มขึ้นมาก ซึ่งจะส่งผลให้อัตรากำไรของบริษัทเพิ่มขึ้นเร็ว อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่มีการแข่งขันสูงของอุตสาหกรรมหม้อแปลงเช่นนี้ ส่งผลอัตรากำไรที่ควรจะเพิ่มขึ้นถูกชดเชยไปกับการแข่งชันที่มากขึ้น โดยเรายังคงอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้ที่ 24.8% แม้ว่าในไตรมาส 1 และ 2 จะอยู่ในระดับต่ำที่ 13-17% ก่อนที่จะไปเพิ่มขึ้นมากในไตรมาส 4 ที่ปกติอยู่ที่ระดับ 30%-35%

บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตในปีหน้าอีก 20% เป็น 1,200 ล้านบาท แต่เรายังคงประมาณการแบบอนุรักษ์นิยมไว้ก่อนประเมินว่าจะเติบโต 17% ซึ่งยังต้องติดตามงานภาครัฐและงานโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนซึ่งในเบื้องต้นยังคงเป้าหมายไว้ที่เดิม

ปรับเพิ่มอัตราการจ่ายเงินปันผลจาก 52% เป็น 57% จากแนวโน้มการลงทุนใหม่ที่ยังไม่ชัดเจน ซึ่งเราประเมินเงินปันผลต่อหุ้นไว้ที่ 0.30 บาท หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่ราคาปัจจุบันที่ 6.3% เป็นผลมาจากความต้องการลงเงินทุนในโรงงานไฟฟ้าพลังงานทดแทนที่ยังไม่มีความชัดเจน ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผลเพิ่มขึ้น มีความเป็นไปได้ที่จะจ่ายหุ้นปันผล เพื่อแก้ปัญหาสภาพคล่อง

แม้ว่าแนวโน้มธุรกิจของบริษัทในปีนี้จะเติบโตค่อนข้างดี แต่สภาพคล่องของบริษัทยังถือว่าอยู่ในระดับที่ไม่สูงมากนัก และบริษัทกำลังหาทางเลือกในการเพิ่มสภาพคล่อง ซึ่งคาดว่าการจ่ายเป็นหุ้นปันผลเป็นทางเลือกที่ดีในช่วงที่บริษัทยังไม่มีแนวโน้มขยายการลงทุนใหม่ที่ชัดเจน

คงคำแนะนำ ซื้อ โดยให้ราคาพื้นฐาน 6.29 บาท โดยใช้ P/E ปี 2558 ที่ 12 ถือว่าต่ำเมื่อเทียบกับการเติบโตของบริษัทปีนี้ที่เติบโตถึง 89.6% และกำไรจะใกล้เคียงระดับสูงสุดนับตั้งแต่เข้าซื้อขายในตลาด โดยบริษัทซื้อขายที่ P/BV 1.7 เท่า เทียบกับ ROE ปีนี้ที่ 20.4% อัตราเงินปันผลที่ 6.3% โดยความสามารถในการแข่งขันของบริษัทในอุตสาหกรรมหม้อแปลงไฟฟ้าพลังงานทดแทนของบริษัทยังถือว่าอยู่ในระดับต้นๆของอุตสาหกรรม 

Back to top button