PTTEP โบรกเล็งอัพประมาณการกำไรปี 65-66 สะท้อนราคาพลังงานพุ่ง แนะซื้อเป้า 143 บ.
PTTEP โบรกเล็งอัพประมาณการกำไรปี 65-66 สะท้อนราคาพลังงานพุ่ง-ระยะยาวธุรกิจโตเด่น จากแหล่งใหม่ทยอยเปิดดำเนินการปี 65-69 แนะซื้อเป้า 143 บาท
บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (15 มี.ค.2565) ว่า บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP แนะซื้อราคาเป้าหมาย 143 บาท มอง slightly positive ต่อข้อสรุปการเข้าเป็นผู้ดำเนินการแหล่งยาดานา เพราะ 1.) ไม่มีภาระเงินลงทุนในการได้สัดส่วนเงินลงทุนของ Total 2.) มีโอกาสที่การดำเนินการผลิตจะต่อเนื่อง เพราะใช้ บุคลากรเดิมจาก Total และบริษัทมีประสบการณ์ในการเป็นผู้ดำเนินโครงการอยู่แล้ว เช่น แหล่งซอติก้าในเมียนมา
3.) CAPEX และ OPEX ที่ต้องใช้เพิ่มรวมราว 8-9 $mn/ปี คิดเป็นราว 0.16-0.18% ของแผนลงทุน 5 ปี (65-69 ของ PTTEP ไม่ได้เป็นภาระอย่างมีนัยสำคัญ และ 4.) มี upside ต่อกำไรปกติปี 65-66 ราว 1% และ 2% ตามลำดับ และเป็น upside ต่อราคาเป้าหมาย ปี 2565 ราว 1.2 บาท/หุ้น หรือราว 0.8% ทั้งนี้แม้บริษัทจะได้สัดส่วนเงินลงทุนในโครงการยาดานาเพิ่ม แต่จะไม่มีการบันทึกสินทรัพย์เพิ่มเข้ามา
ทั้งนี้(อยู่ระหว่างปรับประมาณการขึ้น Tentative TP22F = 163.50) อยู่ระหว่างปรับประมาณการกำไรปกติ ปี 65-66 ของ PTTEP และ ราคาเป้าหมายปี 2565 ขึ้นสะท้อนราคาพลังงานที่สูงกว่าคาด จาก supply ที่ตึงตัวมากกว่าคาด เพราะผลกระทบสงครามรัสเซีย-ยูเครน มองราคาซื้อขายปัจจุบันของ PTTEP ยังไม่ได้สะท้อนกำไรที่มีแนวโน้มเติบเทียบไตรมาสก่อนหน้าก้าวกระโดดในปี 2565 ตามอัตรากำไรที่เพิ่มขึ้น เพราะ ราคาน้ำมันดิบที่ปรับเพิ่มขึ้น เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และส่งให้ราคาก๊าซฯ เพิ่มขึ้นตามด้วย (ราคาก๊าซฯปรับตามน้ำมันย้อนหลัง 6-12 เดือน)
โดยระยะยาวคาดธุรกิจเติบโตเทียบไตรมาสก่อนหน้าต่อเนื่องจากมีแหล่งใหม่ทยอยเปิดดำเนินการในปี 65-69 (สัมปทานใหม่บงกชหนุนเต็มปี, แหล่งเอราวัณเร่งตัว, แหล่งใหม่ในเวียดนาม/โมซัมบิก) และ ยังมี upside จากแหล่ง Lang Lebah ที่เรายังไม่รวมในประมาณการ เบื้องต้นคาดปริมาณผลิตราว 1,000-1,200 MMSFCD/ 170-200 KBOED คาดทราบความชัดเจน FID (Final Investment Decision) ในปี 2566