HMPRO คาดกำไร Q2 โตดีแตะ 1.52 พันลบ. รับโควิดคลาย-รุกขยายสาขาครึ่งปีหลัง
HMPRO คาดกำไร Q2/65 โตดีแตะ 1.52 พันลบ. รับโควิดคลาย-รุกขยายสาขาครึ่งปีหลัง 2565 แนะซื้อเป้า 18.50 บาท
บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (15 ก.ค.65) ว่า บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 18.50 บาท คาดบริษัทจะรายงานกำไรไตรมาส 2/2565 ที่ 1.52 พันล้านบาท (โต 6.0% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน,โต 0.5% เทียบไตรมาสก่อนหน้า) โดยรายได้อยู่ที่1.58 หมื่นล้านบาท (ลดลง 1.9% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, โต 0.5% เทียบไตรมาสก่อนหน้า)
เนื่องจาก 1) SSSG คาดว่าจะลดลงเล็กน้อย เป็นผลของ seasonal factor ที่ฤดูร้อนในปี 2565 สั้นและเข้าสู้ฤดูฝนเร็วกว่าในปี 2564 ทำให้ traffic ใน store ลดลงทั้ง format Home proและ MEGA Home 2.) สาขาของ Home pro ที่ลดลงจากไตรมาส 2564 จำนวน 1 สาขา 3.) ธุรกิจในมาเลเซีย คาดว่าจะฟื้นตัวได้ดีจากมาตรการของรัฐที่ให้สนับสนุนการใช้จ่าย และ 4.) รายได้จากค่าเช่า คาดว่าจะเพิ่มขึ้น เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน จากส่วนลดค่าเช่าที่ลดลง แต่ลดลง เทียบไตรมาสก่อนหน้า มาจากงาน Home pro Expo ในไตรมาส 1/2565
โดยปรับประมานการกำไรปี 2565 และ 2566 ลงเล็กน้อย 3% และ 4% จาก 6.49 พันล้านบาท และ 7.12 พันล้านบาท โดยกำไรสุทธิ 2565 อยู่ที่ 6.28 พันล้านบาท (โต 15.4% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) จากรายได้ทำได้ที่ 6.52 หมื่นล้านบาท (โต 7.6% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) มาจาก SSSG ที่จะเติบโตขึ้นจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจากที่ประชาชนเริ่มปรับตัวเพื่อใช้ชีวิตอยู่กับโควิดได้มากขึ้นและการขยายสาขาของ Homepro และ MEGA Home รวม 6 สาขา และRelocation อีก 1 สาขาที่จะรับรู้รายได้ในครึ่งหลังปี 2565 รวมถึงความมั่นใจในธุรกิจ MEGA Home ที่ยังมี room ในการ gain market share และ Private label ที่โตขึ้นอย่างต่อเนื่องสำหรับทั้งธุรกิจ Home pro และ MEGA Home ที่ปัจจุบันอยู่ที่ 20% และ 15%
ด้านราคาหุ้น Underperform SET -3%/-14% ใน 1 และ 3 เดือนที่ผ่านมา มาจากผลกระทบทางฤดูกาลต่อรายได้และอัตราเงินเฟ้อที่กดดันต้นทุนอย่างไรก็ตาม ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” จากผลการดำเนินงานที่คาดจะฟื้นตัวดีขึ้นเรื่อย ๆ จากสถานการณ์โควิดที่เริ่มคลี่คลาย และการขยายสาขาในครึ่งหลังปี 2565 ซึ่งจะทำให้เห็นการฟื้นตัวโดดเด่นมากขึ้น