HMPRO กูรูหั่นประมาณการปี 58-59สะท้อนกำลังซื้อในประเทศที่อ่อนลง

HMPRO แนะนำเพียงถือ สำหรับ HMPRO ได้มีการปรับประมาณการปี 58 และ 59 ลงในอัตรา 7% และ 4% ตามลำดับ เพื่อสะท้อนกำลังซื้อในประเทศที่อ่อนลง และได้มีการปรับราคาพื้นฐานลงเป็น 7.10 บาท แม้ว่าทางบริษัทได้เปิดสาขาใหม่เพิ่มอย่างต่อเนื่อง เราคาดว่าอัตรากำไรที่บริษัททำได้นั้นจะอยู่ภายใต้แรงกดดันจากสัดส่วนรายได้จาก Mega Home ที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งการปรับโครงสร้างแบรนด์ของบริษัท ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายด้วย PEG ปี 59 ที่ 1.6 เท่า ถือว่าแพงเทียบกับหลักทรัพย์อื่นๆในกลุ่มที่ซื้อขายด้วยค่าเฉลี่ยที่ต่ำกว่าคือ 1.3 เท่า


บล.ดีบีเอสฯ ระบุในบทวิเคราะห์ (9 ธ.ค.) ว่า บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO แนะนำเพียงถือ สำหรับ HMPRO ได้มีการปรับประมาณการปี 58 และ 59 ลงในอัตรา 7% และ 4% ตามลำดับ เพื่อสะท้อนกำลังซื้อในประเทศที่อ่อนลง และได้มีการปรับราคาพื้นฐานลงเป็น 7.10 บาท

แม้ว่าทางบริษัทได้เปิดสาขาใหม่เพิ่มอย่างต่อเนื่อง เราคาดว่าอัตรากำไรที่บริษัททำได้นั้นจะอยู่ภายใต้แรงกดดันจากสัดส่วนรายได้จาก Mega Home ที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งการปรับโครงสร้างแบรนด์ของบริษัท ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายด้วย PEG ปี 59 ที่ 1.6 เท่า ถือว่าแพงเทียบกับหลักทรัพย์อื่นๆในกลุ่มที่ซื้อขายด้วยค่าเฉลี่ยที่ต่ำกว่าคือ 1.3 เท่า

แผนการขยายสาขายังเป็นไปอย่างระมัดระวัง นั่นคือปี 59 จะเปิดสาขาปกติอีก 4-5 แห่ง น้อยกว่าปีปกติเช่นปี 55-56 ที่เปิด 8-11 แห่ง ส่วน Mega Home เปิดอีก 2-3 แห่ง ส่วนที่มาเลเซียก็จะมีการเปิดสาขาใหม่ด้วยเป็นลักษณะ stand-alone สาขาใหม่ส่วนใหญ่อยู่หัวเมืองใหญ่ๆที่มีอำนาจซื้อมาก ทำให้ยอดสาขาสะสมเป็นสาขาปกติ 81 แห่ง Mega Home 9 แห่ง และมาเลเซีย 2 แห่ง

ปกติแบรนด์ของบริษัทเอง (house brand) จะให้อัตรากำไรสูงกว่าแบรนด์อื่นๆ 10% แต่ปัจจุบันอยู่ในช่วงการปรับโครงสร้างแบรนด์ตนเองและจะแล้วเสร็จในช่วงครึ่งหลังปี 59 ดังนั้นกว่าจะเห็นผลดีส่วนนี้จะเป็นปี 60 แต่ขณะเดียวกันสัดส่วนรายได้ที่มาจาก Mega Home ที่มากขึ้นกลับกดดันซึ่งปกติจะให้อัตรากำไรต่ำกว่าสาขาปกติ 10%

ประเมินมูลค่าหุ้นพื้นฐาน HMPRO ใหม่ด้วยวิธี DCF ได้ที่ 7.10 บาท (WACC 9.4%, terminal growth 2%) ซึ่งลดลงจากราคาพื้นฐานเดิมที่ 7.80 บาท ราคาปิดมีส่วนเพิ่มเหลือเพียง 5% จึงแนะนำเพียงถือ สำหรับ HMPRO

Back to top button