เก็งกำไร “หุ้นการบิน-ท่องเที่ยว” รับอานิสงส์ “แอตต้า” ชงยกเว้นค่าวีซ่า 3 เดือน

“บล.ดาโอ” แนะเก็งกำไร “หุ้นการบิน-ท่องเที่ยว” รับอานิสงส์ "แอตต้า" เตรียมชงยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า 3 เดือน หวังกระตุ้นตลาดฯ “จีนเที่ยวไทย” ชู AOT-ERW-CENTEL เด่นกลุ่ม


บล.ดาโอ ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(24 ก.ค.66) ว่า สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เตรียมเสนอรัฐฯออกมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่ากระตุ้นตลาด “จีนเที่ยวไทย” โดยเป็นจิตวิทยาบวกกลุ่มการบิน และท่องเที่ยว มองบวกต่อบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT, บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW, บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL เน้น AOT

ด้านนายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) และตัวแทนสมาพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย หรือเฟตต้า (FETTA) เปิดเผยว่า เมื่อมีการจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ ภาคเอกชนต้องการให้รัฐบาลใหม่ออกมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวแบบแรงๆ และเร่งด่วน เช่น มาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมการขอวีซ่าแก่นักท่องเที่ยวจีน เบื้องต้นเป็นเวลา 3 เดือน ซึ่งเป็นมาตรการที่เคยทำมาแล้วหลังเกิดเหตุการณ์เรือล่มจังหวัดภูเก็ตเมื่อปี 2561 เพื่อฟื้นความเชื่อมั่น หวังครั้งนี้จะช่วยจุดกระแสชาวจีนให้เดินทางเข้าไทยมากยิ่งขึ้น

โดยค่าธรรมเนียมที่ทำวีซ่าที่สถานทูต 200 หยวน ในตอนนี้มีความยุ่งยากในการดำเนินการทำให้บริษัททัวร์เก็บเงินเพิ่มอีก รวมเป็น 400-500 หยวน ส่วนการยื่นขอวีซ่าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองราคา 500 หยวน จึงอยากให้ยกเว้นไปก่อนเพื่อดึงกรุ๊ปทัวร์จีนเที่ยวไทยในปีนี้

“ทั้งนี้ ปัจจุบันตลาดนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยยังค่อนข้างอืด เป็นเรื่องยากที่จะไปถึงเป้าหมาย 5 ล้านคนในปีนี้ตามที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตั้งไว้ แต่หลัง 6 เดือนแรกเดินทางเข้ามาเพียง 1.6 ล้านคน ต้องลุ้นหนักอีก 3.4 ล้านคนใน 6 เดือนหลัง ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะจีนกำลังมีปัญหาเศรษฐกิจ จากสงครามการค้า การย้ายฐานการผลิตออกจากประเทศจีน และสงครามเทคโนโลยี”

นายศิษฎิวัชร กล่าวอีกว่าขณะเดียวกันประเทศอื่นๆต่างทำตลาดชิงนักท่องเที่ยวจีนแข่งกับไทย เช่น มาเลเซียขอวีซ่าง่ายกว่า ใช้เวลาดำเนินการเพียง 1-3 วันก็เสร็จแล้ว ค่าธรรมเนียม 200 หยวนต่อครั้ง ทำให้นักท่องเที่ยวกรุ๊ปทัวร์จีนบางส่วนเปลี่ยนใจไปเที่ยวมาเลเซียแทน ทั้งนี้ คาดการณ์ว่ากว่าตลาดกรุ๊ปทัวร์จีนจะกลับมาฟื้นตัวเที่ยวไทยดีขึ้นก็น่าจะเป็นปี 2567 ส่วนเป้าหมายนักท่องเที่ยวตลาดระยะใกล้ในปีหน้าหรือปี 2567 ที่ ททท.ตั้งเป้าล่าสุดจำนวน 25.8 ล้านคน มองว่ามีความเป็นไปได้

Back to top button