ส่องหุ้น SET50-SET100 ได้-เสียประโยชน์ เกณฑ์ Free Float Adjusted
ส่องหุ้น SET50-SET100 ได้-เสียประโยชน์ เกณฑ์ Free Float Adjusted “บล.กรุงศรี พัฒนสิน” ชี้มีโอกาสกองทุนทยอยปรับ Benchmark เป็นตัวใหม่สูง คาดกลุ่มถูกเพิ่มน้ำหนักลงทุน ได้แก่ “แบงก์-รพ.-ค้าปลีก-วัสดุก่อสร้าง-อสังหาฯ” ส่วนลดน้ำหนักได้แก่ ชิ้นส่วนอิเล็กฯ-โรงไฟฟ้า-ขนส่ง
บล.กรุงศรี พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (9 ส.ค.66) ว่า กลุ่ม SET50-SET100 อิงเกณฑ์จัดทำดัชนีทางเลือก SET50FF- SET100FF โดยวิธี Free Float Adjusted (มีผล 1 ม.ค.67) โดยมองว่าผลกระทบเป็นกลางต่อตลาด แต่ประเมินมีโอกาสที่กองทุนหุ้น SET50-100 ปัจจุบันจะทยอยปรับ Benchmark เป็นตัวใหม่สูง โดยจะส่งผลให้มีการปรับเพิ่มน้ำหนักในหุ้นกลุ่มธนาคาร,โรงพยาบาล,ค้าปลีก,วัสดุก่อสร้าง และอสังหาฯ มากสุดตามลำดับและจะมีการลดน้ำหนักกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์,โรงไฟฟ้าและขนส่งมากที่สุด
ทั้งนี้คาดกลุ่มถูกเพิ่มน้ำหนักลงทุนตามเกณฑ์ดังกล่าว คือ BBL, SCB BDMS KBANK, SCC, CPALL ราว 2-1 พันล้านบาทต่อตัว ส่วนกลุ่มที่คาดถูกลดน้ำหนัก คือ DELTA, AOT, GULF, PTTEP ราว 4 พันล้านบาท ถึง 800 ล้านบาทต่อตัว
อนึ่งก่อนหน้านี้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลท.เตรียมเผยแพร่ดัชนีใหม่ SET50 Free Float Adjusted Market Capitalization Weighted Index (SET50FF) และ SET100 Free Float Adjusted Market Capitalization Weighted Index (SET100FF) เป็นทางเลือกในการใช้งานสำหรับผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมจากดัชนี SET50 และดัชนี SET100 ที่มีอยู่ในปัจจุบัน
โดยหลักเกณฑ์ในการจัดทำ 2 ดัชนีใหม่ (2 new free float adjusted indices) นั้น ในหลักการจะใช้การคัดเลือกหลักทรัพย์ที่เป็นองค์ประกอบของดัชนีเช่นเดียวกับดัชนี SET50 และดัชนี SET100 แต่การคำนวณน้ำหนักของหลักทรัพย์ในดัชนีจะใช้มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดและถ่วงน้ำหนักด้วยสัดส่วนผู้ถือหุ้นรายย่อย (Free Float)
ทั้งนี้ตลท.จะเริ่มเผยแพร่ดัชนี ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป และจะปรับปรุงหลักเกณฑ์การจัดทำดัชนีและเผยแพร่บนเว็บไซต์ต่อไป