BEM:รายได้มั่นคง มีอัพไซด์ประมูลรถไฟฟ้าครบเครื่อง Defensive-Growth-Dividend

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ ว่าบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM เป็นหนึ่งในบริษัทที่สมบูรณ์แบบและพร้อมที่จะขึ้นเป็นเบอร์ 1 ของธุรกิจคมนาคมไทย ทั้งในเรื่องโครงสร้างรายได้ที่มั่นคงจากสัมปทานในมือมากถึง 7 ฉบับ ฐานะการเงินที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นภายหลังการควบรวม และโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่ที่จะอยู่เบื้องหลังสนับสนุนธุรกิจทั้งในแง่ก่อสร้าง (CK) คู่สัญญา (รฟม.) สถาบันการเงิน (KTB, BBL) ส่งผลให้บริษัทฯพร้อมที่จะเป็นตัวแทนประเทศไทย เพื่อรับงานด้านคมนาคมในทุกรูปแบบ และในทุกภูมิภาค

เริ่มต้นคำแนะนำ “ซื้อ” BEM ถือเป็นหุ้นที่ครบเครื่องทั้ง Defensive, Growth, Dividend เหมาะสำหรับนักลงทุนระยะยาว ปัจจุบันราคาหุ้นคิดเป็น PER16 เพียง 25.3เท่า ถือว่ามีส่วนลดจาก BTS มากถึง 40% แนะนำซื้อสะสม ด้วยราคาเป้าหมายปี 2559 ที่ 6.50 บาท/หุ้น

 

บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” BEM ณ มูลค่าเหมาะสมปี 2559 เท่ากับ 6 บาท เนื่องจาก BECL เป็นบริษัทเอกชนที่รับสัมปทานให้บริการทางพิเศษเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย ขณะที่ BMCL เป็นผู้เดินรถไฟฟ้าใต้ดินแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศเช่นกัน ทั้งสองบริษัทต่างมีจุดอ่อนเฉพาะตัวที่สามารถลบล้างได้ด้วยการควบรวม เนื่องจาก BECL มีความแข็งแกร่งด้านฐานะทางการเงินแต่หมดปัจจัยการเติบโตระยะยาว

ส่วน BMCL มีโอกาสเติบโตอย่างมากแต่ขาดเสถียรภาพทางการเงิน เมื่อรวมกิจการเป็นบริษัทใหม่ “BEM” จะมีศักยภาพในการเติบโตที่แข็งแกร่งควบคู่ไปกับฐานะทางการเงินที่มั่นคงและมีเสถียรภาพ คาดรายได้ของบริษัทในปี 2559 จะขยายตัว 22% จากปีก่อน และได้ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลงเหลือ 4% ต่อปี ทำให้ Interest Coverage Ratio เท่ากับ 4.4 เท่า และ D/E Ratio ที่ 1.1 เท่า และทำให้กำไรปกติเติบโต 42% จากปีก่อน เป็น 3,178 ล้านบาท

ราคาเป้าหมายของที่ 6 บาทยังมี Upside จากการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ ในอนาคต นอกจากนี้ ยังคาดว่าบริษัทจะจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 40% ของกำไร หรือราว 0.11 บาท/หุ้นในปี 2559 จึงกล่าวได้ว่า BEM คือ Growth with Dividend Opportunity Stock