TU:ผู้นำตลาดอาหารทะเลระดับโลกแนะนำซื้อเป้า 22.4 บ.ชู upside 30%

TU ใช้ M&A ในการต่อยอดธุรกิจได้เป็นอย่างดี ตั้งแต่ปี 40 มาแล้วที่บริษัทประสบความสำเร็จในกลยุทธ์นี้ ข้อดีคือ สามารถขยายธุรกิจไปยังภูมิภาคอื่นๆ เพิ่ม segment ให้กับสินค้า และดันให้บริษัทกลายมาเป็น ผู้นำตลาดอาหารทะเลระดับโลกได้ในปัจจุบัน นอกจากนี้บริษัทยังคงแสวงหาดีล M&A ใหม่ๆ ต่อไป เพื่อช่วยเติมเต็มรายได้และกำไรในอนาคตต่อไปอีกคงคำแนะนำ ซื้อ ประเมินราคาพื้นฐานด้วย P/E ปี 59 ที่ 17 เท่า (+0.5 SD ของค่าเฉลี่ย P/E ในรอบ 5 ปี) ได้ราคาที่ 22.40 บาท ซึ่งมี upside ถึง 30%


บล.ดีบีเอสฯ ระบุในบทวิเคราะห์ (6 ม.ค.) ว่า บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU ยังชื่นชอบและแนะนำให้ซื้อ สืบเนื่องจากแนวโน้มธุรกิจและปัจจัยพื้นฐานยังคงแข็งแกร่ง ความได้เปรียบเชิงการแข่งขันที่มาจากฐานการผลิตที่ตั้งอยู่ในหลายประเทศ รวมทั้งมีแบรนด์ที่ได้รับความนิยมและรู้จักกันดีในกลุ่มผู้บริโภคแนวโน้มธุรกิจสดใสจากการเติบโตภายในเองและภายนอกจากการทำ M&A บริษัทจึงได้ตั้งเป้าหมายรายได้ในปี 2563 ที่สูงเป็น 80 พันล้านเหรียญสหรัฐ

 นอกจากนี้ยังจะรุกเข้าสู่ตลาดใหม่ๆ ล่าสุดที่ตั้งเป้าไว้คือ ตะวันออกกลาง ด้วยการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนซึ่งมีพันธมิตรอยู่ที่เมืองดูไบ นอกจากจะนำมาซึ่งรายได้ในอนาคตที่ดีแล้ว ยังช่วยเสริมให้อัตรากำไรที่ได้รับมากขึ้นด้วยใช้ M&A ในการต่อยอดธุรกิจได้เป็นอย่างดี ตั้งแต่ปี 40 มาแล้วที่บริษัทประสบความสำเร็จในกลยุทธ์นี้ ข้อดีคือ สามารถขยายธุรกิจไปยังภูมิภาคอื่นๆ เพิ่ม segment ให้กับสินค้า และดันให้บริษัทกลายมาเป็น ผู้นำตลาดอาหารทะเลระดับโลกได้ในปัจจุบัน

นอกจากนี้บริษัทยังคงแสวงหาดีล M&A ใหม่ๆ ต่อไป เพื่อช่วยเติมเต็มรายได้และกำไรในอนาคตต่อไปอีกคงคำแนะนำซื้อ ประเมินราคาพื้นฐานด้วย P/E ปี 59 ที่ 17 เท่า (+0.5 SD ของค่าเฉลี่ย P/E ในรอบ 5 ปี) ได้ราคาที่ 22.40 บาท ซึ่งมี upside ถึง 30% จากราคาหุ้นในปัจจุบัน อย่างไรก็ตามเรายังไม่ได้รวมการเข้าไปถือหุ้น 51% ใน Rugen Fisch ที่เยอรมัน ซึ่งเป็นผู้นำตลาดอาหารทะเลกระป๋องที่ตลาดเยอรมัน ซึ่งขึ้นกับกฎหมายเกี่ยวกับ antitrust ว่าจะผ่านหรือไม่ แต่คาดว่าดีลนี้จะแล้วเสร็จภายใน ม.ค.59 นี้และช่วยเพิ่มกำไรได้ประมาณ 2-3%

Back to top button